Quantcast
Channel: Kawasaki Archives - รถใหม่ 2025-2026 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์
Viewing all 90 articles
Browse latest View live

Kawasaki จัดทัพรถ Big Bike อวดโฉมในงาน Motor show 2017

$
0
0

Kawasaki จัดทัพรถ Big Bike อวดโฉมในงาน Motor show 2017

Kawasaki-BIMS2017_12

KAWASAKI จัด แสดงนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกในงาน Motor Show 2017 นำทัพโดยรถซูเปอร์สปอร์ต Kawasaki Ninja ZX-10R Champion Machine เจ้าของแชมป์บนสังเวียน FIM Superbike Championship 2 ปีซ้อน โดยนักแข่ง Jonathan Rea ล่าสุดปี 2017 ณ สนาม Chang International Circuit Buriram

นักแข่งคาวาซากิได้สร้างผลงาน สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมทั้งสนาม ด้วยการคว้าชัยสนามที่ 2 ทั้ง 2 เรซ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถจักรยานยนต์ที่เร็วและแรงที่สุดในเวลานี้คือ Ninja ZX-10R นั่นเอง

นอกจากนี้ภายในงานท่านจะได้พบกับ ตระกูลรถจักรยานยนต์แห่งความเป็นที่สุดของคาวาซากิ นำโดย Ninja, Z, Versys, Vulcan, W800 และ KLX ซึ่งทั้งหมดนี้มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย

Kawasaki-BIMS2017_13

มร. ยาสุชิ คาวาคามิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทคาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“หลังจากที่ฤดูกาลแข่งขันพ้นผ่าน สองนักแข่งคาวาซากิได้สร้างผลงานสะกดทุกสายตาด้วยรถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ต Ninja ZX-10R การขับเคี่ยวที่ดุเดือดของสองนักแข่งทำให้แฟนคลับชาวไทยหลายท่านประทับใจ ซึ่งเป็นสุดยอด Mass Production Machine ในสนามแข่งขันนั่นเอง”

นอกเหนือจากรถสายพันธุ์แชมป์ที่กล่าวมา คาวาซากิภูมิใจเสนอสุดยอดรถจักรยานยนต์ตระกูล Z ซึ่งมีการเปิดตัว Z1000R, Z900 และ Z650 ในปีที่ผ่านมา

ถือเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดของคาวาซากิ และด้วยความปราณีตของการออกแบบอย่างลงตัวทำให้รถจักรยานยนต์รุ่นดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่เปิดตัวตลอดจนถึงปัจจุบัน สำหรับรถจักรยานยนต์คาวาซากิ ที่สร้างกระแสความเป็นคลาสสิก ปลุกจิตวิญญาณของนักขับขี่หลายท่านให้แสดงออกมาด้วยโมเดลสุดหรู W800 จากกระตูล W ความโดดเด่นจากเครื่องยนต์สู่ไลฟ์สไตล์ของนักขับขี่ตัวจริง ซึ่งถือได้ว่าเป็นการนำผลิตภัณฑ์ชั้นยอดเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยได้อย่างประทับใจยิ่ง

Kawasaki-BIMS2017_04

นอกเหนือจากนี้ รถจักรยานยนต์ที่สร้างเอกลักษณ์การขับขี่ นั่นคือรุ่น Versys ได้ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การขับขี่มากขึ้น ด้วยการนำเครื่องยนต์ 300 ซีซี จัดวางให้อยู่ในรถเพื่อการขับขี่จึงทำให้ Versys-X 300 กลายเป็นโมเดลล่าสุดอีกรุ่นที่ถูกจับตามอง เพราะด้วยคุณสมบัติการบังคับควบคุมง่าย เหมาะแก่การขับขี่ จึงทำให้เจ้า X- 300 คันนี้กลายเป็นขวัญใจชาวทัวริ่งไปอย่างง่ายดาย ซึ่งทั้งหมดนี้เราได้คัดสรรนำสุดยอดรถจักรยานยนต์มาจัดแสดงภายในงาน Motor Show 2017 เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีความหลากหลาย พร้อมนำเสนอสิ่งที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย และมอบประสบการณ์ความตื่นเต้นให้กับคุณ

Kawasaki-BIMS2017_01

คาวาซากิ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ระดับโลกที่ออกแบบและผสมผสานเทคโนโลยีได้อย่างลงตัวมากกว่า 25 รุ่นให้ทุกท่านได้ชมภายในบูธคาวาซากิ ซึ่งทั้งหมดนี้ท่านจะได้เห็นถึงการแสดงเทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย

ไม่เพียงแค่การแสดงรถเท่านั้นที่ทางคาวาซากิมุ่งเน้น บริษัทยังมีกิจกรรมอันส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดีให้แก่ผู้ขับขี่ รวมไปจนถึงการอบรมหลักสูตรการขับขี่อย่างปลอดภัยภายใต้การฝึกอบรมโดยอาจารย์ผู้ชำนาญของคาวาซากิ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ Kawasaki Good Riders School นั่นเอง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ซึ่งมีจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด เพื่อสอดคล้องกับโมเดลที่บริษัทมี

Kawasaki-BIMS2017_03

คาวาซากิ ขอเชิญทุกท่านร่วมชมรถจักรยานยนต์คาวาซากิ สุดยอดความเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี ได้ที่บูธ คาวาซากิ ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 38 ณ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายน 2560 ท่านสามารถติดตามข่าวสาร กิจกรรมคาวาซากิได้ที่ www.kawasaki.co.th หรือwww.facebook.com/KawasakiMotorsThailand

Kawasaki-BIMS2017_01 Kawasaki-BIMS2017_02 Kawasaki-BIMS2017_03 Kawasaki-BIMS2017_04 Kawasaki-BIMS2017_05 Kawasaki-BIMS2017_06 Kawasaki-BIMS2017_07 Kawasaki-BIMS2017_08 Kawasaki-BIMS2017_09 Kawasaki-BIMS2017_10 Kawasaki-BIMS2017_11 Kawasaki-BIMS2017_12 Kawasaki-BIMS2017_13 Kawasaki-BIMS2017_14 Kawasaki-BIMS2017_15 Kawasaki-BIMS2017_16 Kawasaki-BIMS2017_17 Kawasaki-BIMS2017_18

KAWASAKI VULCAN 1700 VOYAGER ABS 2017 “ครูสเซอร์สายพันธ์ซามูไร”

$
0
0

KAWASAKI VULCAN 1700 VOYAGER ABS 2017 “ครูสเซอร์สายพันธ์ซามูไร”
KAWASAKI VULCAN 1700 VOYAGER ABS 2017
KAWASAKI VULCAN 1700 VOYAGER ABS 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 สูบ V-twin 8 วาล์ว SOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ พร้อมพัดลมอัตโนมัติขนาดใหญ่

ขนาดความจุ : 1,700 ซีซี.

กระบอกสูบxช่วงชัก : 102 × 104 มม.

อัตราส่วนกำลังอัด : 9.5 : 1

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ DFI

เรือนลิ้นเร่ง : 42 มม.

ให้กำลังสูงสุด : 82 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 146 นิวตัน-เมตร ที่ 2,750 รอบ/นาที

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

สตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อนด้วย : สายพานเพื่อความเงียบและนิ่มนวล พร้อมกับการบำรุงรักษาที่ง่าย

หน้ากาก : ขนาดใหญ่ มาพร้อมไฟหน้าแบบจอกลม และแผ่นใสบังลมทรงสูง

หน้าคอนโซล : จอ LCD แสดงผลแบบมัลติฟังค์ชั่นครบครันผสมกับเรือนไมล์แบบอะนาล็อก

เครื่องเสียง : ที่ฝังลำโพงเอาไว้ที่หน้าคอนโซล ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินระหว่างขับขี่

กระจกมองข้าง : ใช้รูปทรงของใบพายให้มีมุมมองที่กว้าง

แฮนด์ : เป็นแบบบาร์ทรงสูงโดยใช้ตุ๊กตาจับยึดแผงคอบน แล้วโน้มมาทางด้านหลังเน้นให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบาย

สวิทช์กุญแจ : อยู่เหนือฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิง

เฟรม : เป็นเหล็กกล้าชิ้นเดียวที่ให้ความแข็งแกร่ง ไม่ต้องมีรอยต่อมากนัก ส่วนบอดี้ที่นำมาประกอบเข้าไปก็ทำจากไฟเบอร์ชั้นดีที่น้ำหนักเบาและคงทน

เบาะนั่ง : หุ้มหนังแท้แบ่งเป็น 2 ที่นั่ง นุ่มสบาย ด้านในของเบาะมีส่วนผสมของโฟมและยางเพื่อช่วยให้เบาะหนังมีความยืดหยุ่นและคงทนในทุกสภาพอากาศ ด้านหลังมีให้พิงหลัง

กระเป๋าสัมภาระ : ด้านหลังที่นั่งคนซ้อน 1 ใบ และด้านข้างอีก 2 ใบ

ไฟท้าย : เป็นหลอด LED ทรงสามเหลี่ยม

ท่อไอเสีย : เป็นแบบ 2-1-2 ปลายท่อชุบโครเมี่ยมเงางาม

มิติตัวรถ
ยาว/กว้าง/สูง : 2,560/995/1,550 มม.
ระยะห่างฐานล้อ : 1,665 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 730 มม.
ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 135 มม.
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 20 ลิตร
น้ำหนักของตัวรถ : 406 กิโลกรัม

วงล้อ/ยาง
– หน้า เป็นอัลลอย 9 ก้าน ขอบ 16 นิ้ว สวมยาง 130/90-16 นิ้ว
– หลัง เป็นอัลลอย 9 ก้าน ขอบ 16 นิ้ว สวมยาง 170/70-16 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิค ขนาด 45 มม. ปรับเซ็ทค่าความหนืดได้ ระยะทำงานที่ 140 มม.
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยวปรับได้ 4 ระดับ ระยะการทำงาน 80 มม.

ระบบเบรกมีระบบ ABS
– ด้านหน้า เป็นดิสค์เบรกคู่ ขนาด 300 มม.คาลิเปอร์ TOKICO 4 ลูกสูบ พร้อมระบบ K-ACT ABS
– ด้านหลัง เป็นดิสเบรกเดี่ยว ขนาด 300 มม.คาลิเปอร์ TOKICO  2 ลูกสูบ พร้อมระบบ K-ACT ABS

ครูเซอร์ไบค์สายพันธ์แรงจากค่ายแตนเขียวที่พัฒนาออกมาได้อย่างโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและสมรรถนะ รถคลาสนี้กำลังได้รับความสนใจจากนักบิดที่ชอบเดินทางไกล ด้วยกำลังเครื่องที่ขนาดใหญ่และแรงบิดที่ตอบสนองได้อย่างฉับไว ทำให้ KAWASAKI Vulcan 1700 Voyager ABS 2017 เป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งรุ่น

ขอขอบคุณภาพจาก www.kawasaki.com

21345678

KAWASAKI VULCAN 1700 VAQUERO ABS 2017 “ตัวแรง ครูสเซอร์สีแดง”

$
0
0

KAWASAKI VULCAN 1700 VAQUERO ABS 2017 “ตัวแรง ครูสเซอร์สีแดง”
KAWASAKI VULCAN 1700 VAQUERO ABS 2017
KAWASAKI VULCAN 1700 VAQUERO ABS 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 สูบ V-twin

ระบบวาล์ว : 4 ต่อสูบ DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ พร้อมพัดลมอัตโนมัติขนาดใหญ่ Dual-Mufflers ช่วยในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์และไม่มีเสียงรบกวนผู้ขับขี่

ขนาดความจุ : 1,700 ซีซี.

กระบอกสูบxช่วงชัก : 102 × 104 มม.

อัตราส่วนกำลังอัด : 9.5 : 1

แรงบิดสูงสุด : 145 นิวตัน-เมตร ที่ 2,750

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ DFI เรือนลิ้นเร่ง 42 มม.

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

สตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อนด้วย : สายพานเพื่อความเงียบและนิ่มนวล

หน้ากาก : ขนาดใหญ่ มาพร้อมไฟหน้าแบบจอกลมดวงเดียว และแผ่นใสบังลมแบบสั้นๆ บวกด้วยครีบอากาศดักมวลลมกดหน้าให้แนบลงไปกับพื้นถนน

เครื่องเสียง : มาในรูปแบบ CD และวิยุประจำอยู่ด้านล่างของเรือนไมล์พร้อมลำโพงคู่หน้า เร่งและลดเสียงเองตามจังหวะที่เปิดคันเร่ง

ท่อไอเสีย : เป็นแบบ 2-1-2 ปลายท่อชุบโครเมี่ยมเงางาม

เฟรม : เหล็ก

แฮนด์ : โน้มเข้าหาตัวคนขี่นิดๆ โดยใช้ตุ๊กตาจับยึดแผงคอบน

กระจกมองข้าง : ใช้รูปทรงของใบพายมาเป็นหลักในการดีไซน์ทำให้มีมุมมองที่กว้าง

สวิทช์กุญแจ : อยู่เหนือฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิง

กันล้ม : เป็นอกไก่และชุดคลุมหม้อน้ำ

พักเท้า : มาแบบชุดใหญ่ เป็นแผ่นยางรองสปริงลดแรงสะเทือน

เบาะนั่ง : มาแบบใบเดียว เน้นความนุ่มนวลเพื่อเอาไว้ใช้ในการเดินทาง

บังโคลนหน้า : มาแบบง่ายๆ กระดกท้ายนิดๆ

บังโคลนหลัง : โอบคลุมเกือบๆ 80% ของรัศมียางหลัง

กระเป๋าสัมภาระ : อยู่ด้านข้างแบบขนาดใหญ่กำลังพอดีสำหรับ 2 คน

ไฟท้าย : เป็นหลอด LED ทรงสามเหลี่ยม

มิติตัวรถ
ยาว/กว้าง/สูง : 2,509/970/1,290 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง : 728 มม.
ระยะห่างฐานล้อ : 1,666 มม.
น้ำหนักตัวรถ : 383 กิโลกรัม
ความจุเชื้อเพลิง : 23 ลิตร

วงล้อ/ยาง
– หน้า 16 นิ้ว สวมยาง 130/90-16 นิ้ว
– หลัง 16 นิ้ว สวมยาง 170/70-16 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิค ขนาด 45 มม. ปรับเซ็ทค่าความหนืดได้ ระยะทำงานที่ 5.5 นิ้ว
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยวที่สามารถปรับเซ็ทค่าการทำงานได้ดีไม่แพ้รถสปอร์ตกำลังสูงๆ เลยเช่นกัน

ระบบเบรกมีระบบ ABS
– ด้านหน้า ใช้จานเบรกคู่ขนาด 300 มม.คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ
– ด้านหลัง ใช้จานเบรกเดี่ยวขนาด 300 มม.คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ

นี่คือครูสเซอร์ไบค์จากค่ายแตนเขียวสัญชาติญี่ปุ่นที่มีความเป็นตัวตนแห่งประเทศมากที่สุด ถ้าจะให้พูดถึงรถของค่ายนี้ ไม่ขึ้นชื่อเลยเรื่องยอดขายสำหรับคำว่า “ครูสเซอร์” แต่พอผลิตรถแบบอื่นๆ ดังอย่างกับพลุแตก  ครั้งนี้ก็จับเอารถนอกสายต่าอย่าง Vulcan 1700 Vaquero ABS แล้วมาปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ให้ดูหล่อเท่มากขึ้น มาเสนอ “เผื่อ” จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและเป็นคำตอบสุดท้ายในการหารถที่ “ใช่”

ขอขอบคุณภาพจาก www.kawasaki.com

21876543

KAWASAKI Z 1000 Custom “ครบองค์แบบนี้ใครจะกล้าเทียบ”

$
0
0

KAWASAKI Z 1000 Custom “ครบองค์แบบนี้ใครจะกล้าเทียบ”
KAWASAKI Z 1000 CUSTOM
KAWASAKI Z 1000 Custom

สำนักแต่ง : Custom Wolf

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 4 สูบ

ขนาดความจุ : จาก 1000 ซีซี. ขยายเป็น 1,280 ซีซี.

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : คาร์บูเรเตอร์ MIKUNI TMR ขนาด 36 มม. พร้อมปากแตรดูดสดไร้กรองอากาศถัดมาเสริมออยล์คูเลอร์ให้น้ำมันหล่อลื่นเย็นขึ้นเพื่อความชัวร์ทุกสภาวะ

ระบบสตาร์ท : สตาร์ทไฟฟ้า

สีของตัวรถ : เลือกเอาสีเขียวเอกลักษณ์ประจำค่ายมาเพิ่มเกล็ดทองและตัดด้วยสีดำให้ดุดันก็เป็นอันสะดุดตา

ไฟหน้า : เป็นของ HARLEY-DAVIDSON

แฮนด์ : เปลี่ยนเป็นแบบแฮนด์จับช็อค ประกับคันเร่ง ปั๊มเบรค/คลัทช์ สวิทช์แฮนด์ ปลอกมือ มือเบรค/คลัทช์

มาตรวัดความค่า : ไมล์ถ้วยเดียวจาก MOTOGADGET

กระจกมองข้าง : ทรงกลมห้อยปลายแฮนด์ผลงานสำนักแต่ง Custom Wolf

ถังน้ำมัน : ของ KAWASAKI Z 650 มาพร้อมกับฝาถังแนวคลาสสิคผลงานของสำนักตนเอง

เบาะนั่ง : แบบใบเดียว เป็นผลงานของ LEDERMANIA

บังโคลนหน้า : ตีใหม่ให้สั้นและกว้างรับกับความกว้างของแผงคอ 

ท้ายรถ : หั่นปั้นท้ายออกแล้วสร้างขึ้นใหม่ให้สั้นและมีเส้นโค้งสูงขึ้นกำลังดี

ที่พักเท้า : VCR ที่อาบสีเหลืองทองอร่ามมาจัดท่านั่งให้สปอร์ตขึ้น

ท่อ : สเตนเลสประกบกับปลายท่อ Micron ทรงโคล้งพลิ้วไหวแต่แรงเต็มกำลัง

สวิงอาร์ม : ถูกสาดด้วยสี Sparkling Brown เบอร์เดียวกับ BMW X 5

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า คว้าช็อคอับหน้าของ SUZUKI TL 1000 มาทำหน้าที่ยืด/ยุบ
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยว สวิงอาร์มใหม่ ให้ยาวขึ้น 7 นิ้ว โดยนำของ BENELLI TNT มาแปลงใส่ประกบกับ ช็อคอับของ BENELLI Tornado

ระบบเบรก และ ล้อ/ยาง
– หน้า จานเบรค ขนาด 420 มม. มาประกบกับคาลิเปอร์ โดยวงล้อนี้เปลี่ยนมาคบหากับล้อขอบ 17 นิ้ว ด้านหน้ากว้าง 3.5 นิ้ว รัดด้วยยาง METZELER
– หลัง ล้อขนาด 7 นิ้ว รัดด้วยยาง METZELER โดยด้านหนังโชว์ความอวบเล็กน้อยด้วยไซส์ 210/50 ZR 17

เมื่อ Naked Bike สุดคลาสสิคถูกเสริมความมันส์ในทั่วทุกอณู การันตีเลยว่าสิ่งที่เห็นต้องโดนใจใครหลายคน เพราะนอกจากจะไม่เปลี่ยนสไตล์มาเล่นแนวย้อนยุคเหมือนใครแต่ด้วยไอเดียสุดบรรเจิดผลงานชั้นเลิศจึงบังเกิดขึ้น ซึ่งนอกจากจะยาว ใหญ่ ยังเร็วไวได้ดั่งใจต้องการอีกด้วย ครบองค์แบบนี้จะมีซักกี่คันที่กล้าเทียบรัศมี

ขอขอบคุณภาพจาก www.returnofthecaferacers.com

194357862

KAWASAKI Ninja ZX 10 RR 2017 “นินจาดำแห่งค่ายแตนเขียว”

$
0
0

KAWASAKI Ninja ZX 10 RR 2017 “นินจาดำแห่งค่ายแตนเขียว”
Ninja ZX 10 RR 2017.
KAWASAKI Ninja ZX 10 RR 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 4 ลูกสูบ  16 วาล์ว DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ความจุเครื่องยนต์ : 998 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก เท่ากับ : 76 x 55 มม. ใช้หัวสูบแบบใหม่เพื่อการรองรับในรอบเครื่องที่สูงมากๆ

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 13.0 : 1

ให้กำลังสูงสุด : 200 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 113 นิวตัน-เมตร ที่ 11,500 รอบ/นาที

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : ด้วยระบบด้วยหัวฉีดอิเล็คทรอนิกส์

เรือนลิ้นเร่งขนาด : 47 มม.

ระบบเกียร์ : ธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : ด้วยโซ่และสเตอร์

ระบบไฮเทคต่างๆ : มาเต็มพิกัด ทั้ง Inertial Measurement Unit (IMU) เซ็นเซอร์ตรวจจับทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ ส่งผ่านข้อมูลการเคลื่อนที่ทั้ง 6 แกนของตัวรถเพื่อส่งให้ ECU ประมวลผลและการสั่งการทำงาน เช่น ระบบ Sport-Kawasaki Traction Control (S-KTRC) เลือกค่าได้ 3 ระดับ Kawasaki Launch Control Mode (KLCM) ล็อครอบออกตัว สำหรับการออกสตาร์ทในสนามแข่ง Kawasaki Intelligent anti-lock Brake System (KIBS) หรือระบบป้องกันล้อล็อคและลื่นไถลขณะเบรค Kawasaki Quick Shifter (KQS) เข้าเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทช์ พร้อมกับระบบ Quick Shift Down ให้ลดเกียร์ลงได้โดยไม่ต้องกำคลัทช์เพื่อการเข้าเกียร์ที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น Kawasaki Engine Brake Control (KEBC) ระบบควบคุมการทำงานและความหนักหน่วงของการใช้แรงฉุดจากเครื่องยนต์ พร้อมกับกันสะบัดไฟฟ้าจาก OHLINS (OHLINS Electronic Steering Damper) ส่วนชุด Race Kit ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ต้องสั่งเพิ่มเหมือนเดิม

ไฟหน้า : แบบ 2 ดวงขวาซ้าย พร้อมที่ครอบไฟหน้าสีดำ

ไฟเลี้ยว : เป็น LED ติดอยู่หลังกระจกมองข้าง

ตัวถัง : สไตล์สปอร์ตโค้งมน

เบาะนั่ง : เป็นฟองน้ำเนื้อแน่นๆ อัดจัดทรงมาอย่างดี หุ้มทับด้วยหนังสังเคราะห์ สีดำ

บังโคลนหน้า : แบบเรียบเสมอไปกับล้อ สีดำ

มิติตัวรถ
ยาว/กว้าง/สูง : 2,090/740/1,145 มม.
ระยะห่างฐานล้อ : 1,140 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 835 มม.
ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 145 มม.
น้ำหนักตัวรถ : 206 กก.
ความจุถังเชื้อเพลิง : 17 ลิตร

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นช็อคอับหัวกลับของ SHOWA ขนาด 43 มม. ปรับตั้งค่าการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
– หลัง เป็นช็อคอับเดี่ยวของ SHOWA ปรับตั้งค่าการทำงานได้เช่นกัน ทำงานร่วมกันสวิงอาร์มอะลูมิเนียม

ระบบเบรค
– หน้า จานเบรคขนาด 330 มม. พร้อมคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ BREMBO Racing M 50 พร้อมระบบ ABS
– หลัง เป็นจานเดี่ยว ขนาด 220 มม. กับคาลิเปอร์ NISSIN 2 ลูกสูบ และระบบ ABS

ล้อ/ยาง
– หน้า เป็นล้ออะลูมิเนียมลาย 7 ก้าน จาก MARCHESINI ซึ่งทำมาให้เป็นพิเศษ ขนาด 3.50 x 17 นิ้ว กับยาง ขนาด 120/70 ZR 17
– หลัง เป็นล้ออะลูมิเนียมลาย 7 ก้าน จาก MARCHESINI ซึ่งทำมาให้เป็นพิเศษ ขนาด 6.00 x 17 นิ้ว กับยาง ขนาด 190/55 ZR 17

KAWASAKI ส่ง Ninja ZX-10 RR รุ่นพิเศษ Special Limited ผลิตออกวางจำหน่ายเพียง 1,000 คันทั่วโลก โดยใช้สีดำลาย Winter Edition Black มาพร้อมกับรหัส RR ที่เพิ่มขึ้นมา อัดของแต่งมาให้อารมณ์ประมาณรถแข่งกันเลยทีเดียว

ขอขอบคุณภาพจาก www.kawasaki.com

1.241101851312116914151920111716

KAWASAKI GPZ Custom “มาดใหม่ โหดกว่าเดิม”

$
0
0

KAWASAKI GPZ Custom “มาดใหม่ โหดกว่าเดิม”
KAWASAKI GPZ
KAWASAKI GPZ Custom

สำนักแต่ง : Paul Hutchinson

ความจุเครื่องยนต์ : 750 ซีซี. เพิ่มเป็น 810 ซีซี. พร้อมกล่อง RFID

ระบบสตาร์ท : สตาร์ทไฟฟ้า

ไฟหน้า : ถอดไส้ไฟหน้าเดิมออกแล้วนำแบบ Bi-Xenon มายัดใส่ลงไป

กระจกมองข้าง : ติดตั้งที่ปลายแฮนด์ของแต่งจาก MOTOGADGET เพียงเท่านี้ค็อกพิทเดิมๆ ก็เปลี่ยนอารมณ์ไปได้เยอะ

มาตรวัดค่า : KOSO แบบดิจิตอลไว้แสดงรายละเอียดที่ต้องการ ส่วนสวิทช์แฮนด์ประกบกับคันเร่ง

สีของตัวรถ : สาดสีดำเหลือบเขียวคาดด้วยสีประจำค่ายบริเวณกรอบไฟหน้าและถังน้ำมันผลงาน Steve May ที่ Lizard Designs ซึ่งช่วยให้ GPZ ที่ดูเหมือนธรรมดาดูดุดันและมันส์ขึ้นกว่าเดิมแบบคนละเรื่อง

ถังน้ำมัน : ตีใหม่ให้โค้งและลู่ลมเหมาะแก่การหมอบมากขึ้น

บั้นท้าย : สั้นเพื่อความสปอร์ต

เบาะ : แบบเดี่ยวกระชับกว่าสแตนดาร์ด

อกไก่ : ออกแบบให้ดักอากาศเข้าระบายความร้อนส่วนนี้ได้ดีขึ้น

สวิงอาร์ม : เปลี่ยนใหม่จากแบบแขนคู่เป็นแขนเดี่ยวจาก HONDA VFR 750 ซึ่งการันตีว่าล้ำสมัยและทำให้การเกาะเหนียวแน่นกว่าเดิม

ท่อ : LOSSA ENGINEERING ไว้แผดเสียงคำราม

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า ช็อคอับ USD จาก YAMAHA R 1

นานทีจะได้ยลโฉมการตกแต่งรุ่นนี้ที่ดูครั้งแรกแทบไม่เห็นความแตกต่างจากเดิม แต่เมื่อเช้าไปเสาะหาข้อมูลจะพบว่ามีการเล่นของไม่น้อยไปกว่าใคร แต่ด้วยรูปแบบหลายๆ อย่างที่คลายองค์ประกอบเดิมจากโรงงานจึงทำให้มองผ่านๆ คิดว่าไม่มีอะไร แต่ที่ไหนได้ ดุ เด็ด เผ็ด มันส์ พอตัวเลยทีเดียว

ขอขอบคุณภาพจาก www.returnofthecaferacers.com

346125

KAWASAKI ราคารถ คาวาซากิ 2017-2018

$
0
0

Kawasaki Motorcycle Big Bike 2017-2018 ราคารถ คาวาซากิ มอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์

KAWASAKI VERSYS 1000
Call Center ศูนย์ KAWASAKI พระราม 9 ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ 02-247-7935-38 / หรือ คุณบูม 090-558-9540

KAWASAKI Z250SL ABS ราคา                 122,500
KAWASAKI Ninja 250SL ABS ราคา                 123,000
KAWASAKI Ninja 250SL ราคา                 125,500
KAWASAKI Ninja 250SL KRT EDITION ราคา                 137,500
KAWASAKI Z250 ราคา                 154,000
KAWASAKI KLX250/D-Tracker X ราคา                 158,300
KAWASAKI Z300 ราคา                 175,000
KAWASAKI Ninja 300 ราคา                 185,500
KAWASAKI Ninja 300 KRT Edition, winter test ราคา                 197,000
KAWASAKI Versys-X 300 ABS ราคา                 199,000
KAWASAKI Versys-X 300 ABS Tourer ราคา                 227,000
KAWASAKI Z650 ABS ราคา                 283,000
KAWASAKI Ninja650(ABS) ราคา                 299,500
KAWASAKI Ninja650(KRT) ราคา                 306,500
KAWASAKI Vulcan S ABS ราคา                 285,000
KAWASAKI Vulcan S ABS SE ราคา                 293,000
KAWASAKI Vulcan S Café Winshield ราคา                 311,000
KAWASAKI Versys650 ABS ราคา                 323,000
KAWASAKI Versys650 ABS ราคา                 326,000
KAWASAKI Versys650 ABS Specail Edition ราคา                 328,000
KAWASAKI W800 ราคา                 376,000
KAWASAKI W800 Specia Edition ราคา                 395,000
KAWASAKI Z900 STD ราคา                 399,000
KAWASAKI Z900 Special ราคา                 429,000
KAWASAKI Z1000R ราคา                 691,000
KAWASAKI Z1000 ราคา                 612,000
KAWASAKI Ninja1000 ราคา                 664,000
KAWASAKI Versys1000 ราคา                 619,000
KAWASAKI NinjaZX-10R ABS ราคา                 694,000
KAWASAKI NanjaZX-14R ABS ราคา                 939,900
KAWASAKI 1400 GTR ABS ราคา                 865,000
KAWASAKI Ninja H2 ราคา              1,568,000

KAWASAKI Versys-X 300 2017 “ของดีสำหรับมือใหม่จากค่ายแตนเขียว”

$
0
0

KAWASAKI Versys-X 300 2017 “ของดีสำหรับมือใหม่จากค่ายแตนเขียว”
KAWASAKI Versys-X 300
KAWASAKI Versys-X 300 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 สูบเรียง 8 วาล์ว DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ความจุเครื่องยนต์ : 296 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก เท่ากับ : 62 x 49 มม.

อัตรกำลังอัด : 10.6:1

ให้กำลังสูงสุด : 39 แรงม้า

แรงบิดสูงสุด : 27 นิวตัน-เมตร

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : ด้วยหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ระบบเกียร์ : ธรรมดา 6 สปีด

เรือนลิ้นเร่ง : ขนาด32 มม.

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง พร้อม Assist & Slipper Clutch และระบบ Self-Servo ช่วยให้การทำงานของคลัทช์นุ่มนวลควบคุมง่ายและเบามือ

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : สตาร์ทด้วยไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : ชุดโซ่และสเตอร์

ไฟหน้า : เป็นทรงสปอร์ต

ชีลด์บังลมด้านหน้า : ขนาดใหญ่ป้องกันลมปะทะได้ดีและให้ทัศนวิสัยชัดเจน

มาตรวัด : แบบมัลติฟังค์ชั่นดีไซน์ล้ำสมัยอ่านค่าแบบดิจิตอลและอะนาล็อก แสดงผลได้ครบครัน ทั้งวัดรอบ, แจ้งความเร็ว, นาฬิกา, อัตราเชื้อเพลิง และเพิ่มเติมในส่วนของ Trip A, Trip B และวัดอุณหภูมิ อีกทั้งยังมีแสดงตำแหน่งเกียร์ด้วย

เฟรม : แบบใหม่ High-Ten Sile Steel ที่เน้นความแข็งแรงในน้ำหนักไม่มาก รับมือกับสถานการณ์การขับขี่ต่างๆ

แฮนด์ : แบบกว้างเน้นความคล่องตัวในการควบคุมบังคับเลี้ยว

ถังน้ำมัน : รูปทรงโค้งลงเชื่อมกับเบาะนั่งดูกลมกลืนกับตัวรถ

เบาะนั่ง : แบบชิ้นเดียวยก 2 ระดับ

ด้านท้าย : มีโครงเหล็กยึดสำภาระยามเดิมทาง

ไฟท้าย : ดวงใหญ่

ไฟเลี้ยวหน้า/หลัง : ทรงเหลี่ยมขนาบข้างตัวรถ

สำหรับรุ่น Tourer-Version : จะมีอุปกรณ์เสริมสำหรับเดินทางไกล เช่น Fog Lamp, แครชบาร์, การะเป๋าข้าง, การ์ดแฮนด์, DC Outlet ช่องจ่ายไฟ 12 โวลท์ และขาตั้งคู่

มิติตัวรถ
ยาว/กว้าง/สูง : 2,170/860/1,390 มม.
ระยะห่างฐานล้อ : 1,450 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 800 มม.
ระยะจากพื้นถึงตัวรถ : 180 มม.
ความจุถังเชื้อเพลิง : 17 ลิตร
น้ำหนักตัวรถ : 170 กก.

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นช็อคอับเทเลสโคปิคขนาด 41 มม.
– หลัง เป็ยช็อคอับเดี่ยว Bottom-Link Uni-Trak ปรับตั้งค่าของสปริงได้ ให้ความนิ่มนวลพร้อมซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม

ระบบเบรค
– หน้า เป็นแบบจานเดี่ยวขนาด 290 มม. คาลิเปอร์ NISSIN 2 ลูกสูบ
– หลัง เป็นจานเดี่ยวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ NISSIN 2 ลูกสูบ พร้อมระบบเบรค ABS ทั้งหน้าและหลัง

ล้อ/ยาง
– หน้า เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวด ขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยางกึ่งอ๊อฟโรดขนาด 100/90-19
– หลัง เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวด ขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยางกึ่งอ๊อฟโรดขนาด 130/80-17

นักขี่หน้าใหม่ที่กำลังมองหารถไว้ใช้งานและท่องเที่ยว ลองมอง KAWASAKI Versys-X 300 ซึ่งเป็นรถ Touring Adventure ระดับ Entry Class ที่ตอบโจทย์นักเดินทางมือใหม่ให้เข้าถึงรถประเภทนี้ได้ง่ายขึ้น จากการออกแบบที่ฉีกแนวไปจาก Versys 650 อย่างสิ้นเชิงและพร้อมสำหรับการขับขี่ในเส้นทางแบบ Soft-Enduro

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.kawasaki.com

VersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABS33VersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABS29VersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABS35VersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABSVersysÆ X 300 ABSKAW_7878KAW_2485KAW_5298KAW_6367DSC_0059KAW_1306KAW_0068KAW_2258


KAWASAKI KX 65 2017 “จอมลุยไซส์ S จากค่ายแตนเขียว”

$
0
0

KAWASAKI KX 65 2017 “จอมลุยไซส์ S จากค่ายแตนเขียว”
KAWASAKI KX 65 2017
KAWASAKI KX 65 2017

เครื่องยนต์ : 2 จังหวะ

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 64 ซีซี.

กระบอกสูบ X ระยะชัก เท่ากับ : 44.5 X 41.6 มม.

จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : คาร์บูเรเตอร์ MIKUNI มีรีดวาว์ลทำหน้าที่ดระพือปิด/เปิดช่วย

ระบบเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 8.4 : 1

คลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบคันสตาร์ทเท้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

เฟรม : ผลิตจากเหล็ก สวิงอาร์มก็เป็นเหล็ก เมื่อเหล็กเอามาทำเฟรม แล้วเป็นเฟรมขนาดเล็กๆ บอกเลยนะว่า แข็งยกกำลังสอง

แฮนด์ : ทรง T-Bar กว้างเตี้ยเพื่อช่วยในการบังคับรถในขณะขับขี่

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 12 ชิ้น
– บังโคลนหน้า
– แป้นเบอร์หน้ารถ
– การ์ดรังผึ้ง
– ปีกหม้อน้ำ
– ถังเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ด้านข้าง
– บังโคลนหลัง
– การ์ดคาลิเปอร์

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 760/1590/955 มม.
– ระยะฐานล้อ 1,120 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 305 มม.
– ความสูงของเบาะนั่ง 760 มม.
– น้ำหนักตัวรถ : 65 กก.
– ความจุถังน้ำมัน : 3.8 ลิตร

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นเทเลสโคปิคขนาด 33 มม. ผิวแกรนเคลือบด้วยฮาร์ดโครเมี่ยม ระยะการยุบตัว 210 มม. ปรับตั้งค่า Rebound หรือการคือตัวได้ 4 ระดับ
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยว เป็นช็อคอับแบบแก๊สปรับตั้งค่าความกระด้างได้จากขดสปริง 4 ระดับ ระยะการทำงาน 240 มม.

ระบบเบรค
– ด้านหน้า จานเบรคเดี่ยว ขนาด 180 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ
– ด้านหลัง แบบเดี่ยว ขนาด 180 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ

ล้อ/ยาง
– หน้า ล้อเป็นซี่ลวด ยางขนาด 60/100-14
– หลัง ล้อเป็นซี่ลวด ยางขนาด 80/100-12

เห็นคันเล็กๆ แบบนี้ อย่ามองผิดคิดว่าเป็น KSR นะครับ เพราะนี่คือ KX 65 ตัวจี๊ดสไตล์โมโตครอสที่พกเอาเครื่อง 2t ติดมาจากโรงงานไม่มีไฟหน้าไม่ต้องหาไฟท้าย แล้วก็บ๊ายบายไปเลยสำหรับไฟเลี้ยว ส่วนกระจกมองข้าง…นี่รถแข่งนะ จะมีไปเพื่อ… จำได้ว่าหลายๆ ปีก่อนเคยลองขี่รุ่นนี้ ซึ่งเป็นรถของเพื่อน บ๊ะเจ้าโจ๊กช่วยลูกด้วย รถอะไรคันน้อยๆ แรงสะใจเลยขอบอก พอนั่งเลือกว่าจะเอารุ่นไหน มาลงใน สัมผัสล่าสุด ก็มาปิ๊งกันเจ้านี่เลยอ้ะ ไปดูกันดีกว่านะตัวเธอ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.kawasaki.com  

Data CutKX65KX65KX65Detail ShotDetail ShotKX65KX65KX65KX65KX65KX65

รีวิว Kawasaki Versys-X 300 เริ่มต้นลุยไปกับแอดเวนเจอร์ที่เบา ขี่ง่าย คล่องตัว

$
0
0

รีวิว Kawasaki Versys-X 300 เริ่มต้นลุยไปกับแอดเวนเจอร์ที่เบา ขี่ง่าย คล่องตัว

Kawasaki-Versys-300_02

ในปัจจุบันนี้มีผู้ที่สนใจหันมาขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หลายคนอาจจะยังเพิ่งมาหัดเที่ยวด้วย 2 ล้อ อาจจะไม่ได้มีรถ Bigbike สำหรับสาย Touring แต่ก็มีจิตใจของ Bikers นักเดินทางอยู่เต็มเปี่ยม

Kawasaki VersysX 300_02_resize

ขอย้อนกลับไปเมื่อปลายที่ผ่านมาในงาน Motor Expo 2016 ทาง Kawasaki Motors ประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัว Kawasaki Versys-X 300 รถ Adventure คันเริ่มต้นของค่าย เพื่อมาทำตลาดสำหรับผู้ที่เริ่มต้นขี่มอไซค์สายเดินทาง ตามหลังจากการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ EICMA2016 มาอย่างติดๆ ในระยะเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน

ดังนั้นในวันนี้ 9carthai เราขอมารีวิวรถ Entry Adventure สำหรับมือใหม่ ที่อยากจะเป็นนักเดินทาง มองหารถที่ขี่ควบคุมง่าย น้ำหนักเบา ทางเราจึงจะมา รีวิว Kawasaki Versys-X 300 Tourer Version จากทาง Kawasaki Motoaholic มาให้เพื่อนๆ ที่สนใจได้รับชมกันครับ

Kawasaki-Versys-300_26

รูปลักษณ์

Kawasaki-Versys-300_24

ไฟหน้า Versys-X 300 เป็นแบบหลอด รูปทรงทางด้านหน้า ให้ความรู้สึกว่าดีไซน์แอบย้อนยุค คล้ายจะนำ Ninja 250SL มาปรับความแหลมคมของไฟหน้าให้ดูโค้งมนมากขึ้น

Kawasaki-Versys-300_19

ไฟท้ายแบบหลอด แต่ดีไซน์ได้แปลกตา เมื่อไฟติดดูมีมิติสวยงาม

Kawasaki-Versys-300_23

ล้อใช้แบบซี่ลวดด้านหน้าขนาด 19” สวมยางไซส์ 100/90/R19 จาก IRC Trail Winner
ด้านหลัง 17” สวมยางไซส์ 130/80/R17

Kawasaki-Versys-300_12

Versys-X 300 มาพร้อมแร็คหลัง เหมาะแก่สายเดินทางที่ต้องการรัดบรรทุกสัมภาระ

Kawasaki-Versys-300_20

มาตรวัด Digital ปนอนาล็อก วัดรอบแบบเข็ม และความเร็วเป็นตัวเลข

Kawasaki-Versys-300_13

สวิตช์ไฟซ้าย มาพร้อมไฟฉุกเฉิน ตามแบบฉบับรถขนาด 650cc

Kawasaki-Versys-300_30

สำหรับ Kawasaki Versys-X 300 Tourer Version นี้ จะมาพร้อมออปชั่นมากมาย ได้แก่

Kawasaki-Versys-300_18

– กระเป๋าข้างแบบแข็งจุข้างละ 17 ลิตร รับน้ำหนักสูงสุด 3 กก.กระเป๋าข้างเป็นแบบติดตั้งโดยใช้โบลท์และเปิดจากฝาปิดด้านบน มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ

Kawasaki-Versys-300_17

– ไฟตัดหมอก LED จาก PIAA เลนส์ขนาด ø84 มม. มีปุ่มเปิด-ปิด ทางด้านขวาของแผงหน้าปัด

Kawasaki-Versys-300_07

– ช่องจ่ายไฟ DC ทางด้านซ้ายของแผงหน้าปัด, ช่องด้านขวาเป็นปุ่มเปิด-ปิดไฟตัดหมอก

Kawasaki-Versys-300_05

– การ์ดแฮนด์ และ การ์ดกันล้มที่แฟริ่งด้านข้าง แบบท่อเหล็ก ซึ่งใช้เป็นตำแหน่งยึดไฟตัดหมอกด้วย

Kawasaki-Versys-300_31

– ขาตั้งคู่

Kawasaki-Versys-300_35

มิติตัวรถ Kawasaki Versys-X 300 Tourer Version
น้ำหนักตัวที่ 184 กก. (175 กก. ในรุ่น City)
ความสูงเบาะนั่ง 815 มม.

ท่านั่ง

Kawasaki-Versys-300_34

Versys-X 300 เป็นรถสไตล์ Touring Adventure ในระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับที่ต้องการ ขับชี่ท่องเที่ยว แบบ ชิลล์ๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์  ท่านั่งในการขับขี่สบาย  ตั้งแต่องศาแฮนด์บาร์ที่กางตรง ระดับความสูงกำลังดีส่งผลให้ การควบคุมรถเป็นไปได้อย่างง่ายดาย ท่านั่งหลังตรงไม่ต้องก้มตัวลง สอดคล้องกับตำแหน่งการวางเท้าที่ค่อนข้างต่ำ ตามสไตล์รถ Adventure นั่งสบายไม่ต้องงอขามากนัก ถังน้ำมันขนาดกำลังดีไม่ใหญ่ไป และแบนเรียบหนีบได้กระชับช่วงเข่า อีกทั้ง มี wind shield ที่ช่วยบังลมได้ดี  ทำให้รู้สึกถึงลมปะที่ช่วงลำตัวไม่มากจนเกินไป จากการทดสอบสามารถขี่ได้อย่างต่อเนื่อง 1-2 ชม. โดยไม่รู้สึกถึงอาการปวดเมื่อยแต่อย่างใด

Kawasaki-Versys-300_32

ด้านตำแหน่งผู้ขี่ ตัวผู้เขียนสูง 174 ซม. สวมบูทเหยียบได้เต็มขาสบายๆ
ขณะที่ผู้ทดสอบอีกท่านสูง 168 ซม เมื่อคร่อมรถสามารถเหยียบเท้าลงพื้นได้ประมานครึ่งฝ้าเท้า  แต่ด้วยน้ำหนักรถค่อนข้างเบา จึงไม่ส่งผลต่อการยืนทรงตัว

Kawasaki-Versys-300_33

สำหรับตำแหน่งเบาะผู้ซ้อนนั้น นั่งได้สบายจริง เบาะนุ่มหนา แต่ด้วยตำแหน่งเบาะนั่งแม้จะเป็นชิ้นเดียวแต่ทำ Slope ต่างระดับจึงทำให้ผู้ซ้อนนั้นอยู่สูงกว่าตำแหน่งผู้ขี่พอสมควร ซึ่งถ้าผู้ซ้อนสูงจะค่อนข้างสูงโด่งโต้ลมคล้ายๆ กับรถสปอร์ต

Kawasaki-Versys-300_21

ขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ความจุ 296cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกำลัง 39 hp@11,000rpm และแรงบิด 27 Nm@10,000rpm ซึ่งเป็นเครื่องบล็อกเดียวกับ Ninja300/Z300 ยังมาพร้อมระบบ Assist & Slipper Clutch ที่ช่วยให้คลัทช์นิ่มเบามือ นอกจากนี้ยังเคลมอัตราสิ้นเปลืองว่าถังหนึ่งวิ่งได้ถึง 444 กม. ด้วยกัน

Kawasaki-Versys-300_28

ดังนั้นในด้านของสมรรถนะ อัตราเร่ง และความแรงนั้น แม้จะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน แต่การปรับเซ็ท Airbox, ระบบไอเสีย ใหม่ ซึ่งดูเน้นการส่งกำลังย่านกลางให้ดีขึ้น เพื่อให้เหมาะกับรถสายเดินทางอย่างตระกูล Versys

Kawasaki-Versys-300_36

ด้านพละกำลัง และความราบรื่นของเครื่องยนต์ 2 สูบ นั้นทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์สูบเดี่ยวอย่างเห็นได้ชัด Versys-X 300 คันนี้ มีอาการสั่นของเครื่องยนต์ที่ต่ำ โดยรวมถือว่าขี่ง่ายนุ่มนวล เน้นไหลลื่น ความเร็วเดินทางยังมีให้ไปได้เรื่อยๆ

ขณะที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แรงบิดอาจจะไม่ได้จัดจ้านนัก ซึ่งถ้าแบกน้ำหนักเยอะ และขี่บนทางลาดชันอาจต้องไล่รอบกันหน่อย

Kawasaki-Versys-300_29

การควบคุมผ่านระบบกันสะเทือน
โช้คอัพหน้าเทเลสโคปิค 41 มม. มีระยะเคลื่อนตัว 129.5 มม. และโช้คหลังเดี่ยวที่เป็นแบบกระเดื่องทดแรง ใน VersysX 300 ปรับ Preload ได้ และมีระยะเคลื่อนตัว 147.3 มม.

Kawasaki VersysX 300_18_resize

โดยรวมนั้น ถือว่าใช้งานได้ดี บนถนนทางราบช่วงล่างนุ่มนั่งสบายมาก แต่ถ้ามีผู้ซ้อน หรือบรรทุกสัมภาระหนัก พบว่าช่วงล่างจะนิ่มไปนิดหากขี่ด้วยความเร็ว

Kawasaki-Versys-300_09

เมื่อต้องขี่ลุยผ่านถนนลูกรัง หรือผ่านหลุมขรุขระ ก็ผ่านได้อย่างสบายๆ แม้โช้กหน้าแบบหัวตั้ง ที่อาจไม่หนึบแน่นเท่าโช้ก UpSideDown และมีแรงดีดสะเทือนกลับขึ้นมาที่ช่วงแขนบ้างเมื่อขี่ลุยทางวิบาก แต่ตำแหน่งแฮนด์บาร์ทรงสูงโค้งงอพอประมาณกับข้อศอก ทำให้ควบคุมรถได้ไม่ยากเย็น นอกจากนี้ตำแหน่งแฮนด์ไม่ยาวเกินไป ก็ช่วยให้สามารถขับขี่ฝ่าการจราจร รถติด ได้ไม่เหนื่อย แต่อาจต้องระวังการ์ดแฮนด์ และกระเป๋าข้างเสียหน่อย ใน Tourer Version คันนี้

Kawasaki-Versys-300_22

ระบบเบรก ABS
ด้านหน้าจานดิสก์เดี่ยวขนาด 290 มม. ปั๊มเบรก 2 ลูกสูบจาก Tokico
ด้านหลังจานดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มม. ปั๊มเบรก 2 ลูกสูบจาก Tokico

การทำงานของเบรกทำงานได้ดี การปรับใช้ปั๊มเบรกหน้า (แบบเดียวกับตัว 650) ให้ความหนักแน่นที่ดีขึ้น และการทำงานของ ABS ดูเนียนยิ่งขึ้น นอกจากนี้การที่รถมี Slipper Clutch ช่วยให้การเบรกหนักๆ หรือ ลดเกียร์ลงอย่างรวดเร็วไม่มีอาการรถกระชากท้ายล็อกปัดออกมาให้เห็น ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง และนิ่มนวล

Kawasaki-Versys-300_04

สรุป Kawasaki Versys-X 300 Tourer Version เป็นรถที่เข้ามาทำตลาด Entry Adventure มุ่งสายลุยรักการเดินทางอย่างจริงจัง โดยที่กลุ่มตลาดของเจ้า Versys-X นี้ จะต้องเป็นผู้ที่มองหารถที่ขี่ควบคุมง่าย น้ำหนักเบา คล่องตัว และมอบความสะดวกสบายไม่แพ้รถ Adventure Touring ขนาดมิดไซส์ คันนี้เลยตอบโจทย์คุณ
ขณะที่สมรรถนะความแรงนั้นอาจไม่ใช่รถที่จัดจ้าน แต่ก็เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล

Kawasaki-Versys-300_27

จุดเด่น

  • น้ำหนักเบา คล่องตัว ควบคุมง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นสาย ADV
  • ฟีลลิ่งการขับขี่ ที่นุ่มนวล นั่งสบายในทุกการเดินทาง
  • ในรุ่น Versys-X Tourer Version มาพร้อมออปชั่นครบครัน สำหรับนักเดินทางซึ่งไม่ต้องไปตกแต่งอะไรเพิ่มเติมกันอีกต่อไป

Kawasaki-Versys-300_08

ข้อสังเกต

  • ราคาในรุ่น Versys-X Tourer Version นี้พอๆกับ ADV คลาส 500cc
  • ไฟหน้า-ไฟท้าย แบบหลอด
  • ช่วงล่างด้านหน้าใช้แบบ Telescopic น่าจะนำช่วงล่าง USD จาก KLX250 มาใส่

ขอขอบคุณ Kawasaki Motoaholic
จิระศักดิ์ ติ๊บอ้าย Test Driver + Photos
ภณ เพียรทนงกิจ Writer + Photos

Kawasaki-Versys-300_23 Kawasaki-Versys-300_02 Kawasaki-Versys-300_25 Kawasaki-Versys-300_26 Kawasaki-Versys-300_27 Kawasaki-Versys-300_10 Kawasaki-Versys-300_11 Kawasaki-Versys-300_29 Kawasaki-Versys-300_06 Kawasaki-Versys-300_09 Kawasaki-Versys-300_05 Kawasaki-Versys-300_24 Kawasaki-Versys-300_30 Kawasaki-Versys-300_17 Kawasaki-Versys-300_19 Kawasaki-Versys-300_04 Kawasaki-Versys-300_08 Kawasaki-Versys-300_07 Kawasaki-Versys-300_20 Kawasaki-Versys-300_13 Kawasaki-Versys-300_12 Kawasaki-Versys-300_16 Kawasaki-Versys-300_18 Kawasaki-Versys-300_28 Kawasaki-Versys-300_21 Kawasaki-Versys-300_22 Kawasaki-Versys-300_31 Kawasaki-Versys-300_35 Kawasaki-Versys-300_34 Kawasaki-Versys-300_32 Kawasaki-Versys-300_33 Kawasaki-Versys-300_36

KAWASAKI Versys 1000 ABS LT 2017 “พร้อมลุยทุกเส้นทาง”

$
0
0

KAWASAKI Versys 1000 ABS LT 2017 “พร้อมลุยทุกเส้นทาง”
KAWASAKI Versys 1000 ABS LT 2017
KAWASAKI Versys 1000 ABS LT 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 ลูกสูบ DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ความจุเครื่องยนต์ : 1,043 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก เท่ากับ : 77 x 56 มม.

อัตรกำลังอัด : 10.3 : 1

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : ด้วยหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ระบบเกียร์ : ธรรมดา 6 สปีด

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : สตาร์ทด้วยไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : ชุดโซ่และสเตอร์

ไฟหน้า : เป็นแบบสปอร์ตแยกสองโคมซ้ายขวา

เฟรม : เป็นการขึ้นรูปด้วยอะลูมินั่มอัลลอยน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งพอในการขี่ลุยเส้นทางกึ่งอ๊อฟโรด ซึ่งในส่วนของชุดเฟรมจะแยกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ยึดติดกับเครื่องยนต์และส่วนที่ทำหน้าที่เป็นซับเฟรมท้าย โดย Versys 1000 จะเป็นรถที่สามารถถอดซับเฟรมท้ายได้ในกรณีที่จำเป็นต้องถอด ส่วนสวิงอาร์มก็เป็นอะลูมิเนียมเช่นกันเรียกได้ว่ารถคันนี้ปลอดสนิมแน่นอน

แฮนด์ : เป็นทรง T-Bar

เบาะนั่ง : แบบนุ่มและยกระดับให้สูงขึ้นในส่วนของคนซ้อน

ที่พักเท้า : มีการรองยางมาให้ทั้งของคนขี่และคนซ้อน

ไฟท้าย : ขนาดพอเหมาะส่องสว่างระดับสายตาพร้อมไฟส่องป้ายทะเบียน

ไฟเลี้ยวหน้า/หลัง : แยกออกจากตัวรถเพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายในบางประเทศ

มิติตัวรถ
ยาว/กว้าง/สูง : 2,240/1,026/1,399 มม.
ระยะห่างฐานล้อ : 1,518 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 840 มม.
ความจุถังเชื้อเพลิง : 21 ลิตร
น้ำหนักตัวรถ : 249 กก.

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นเทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 43 มม. ปรับตั้งได้ ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์ดโครเมี่ยม
– หลัง เป็นช็อคอับเดี่ยวแบบพิเศษตรงที่ติดตั้งเกือบจะเอนขนานกับถนน

ระบบเบรค
– หน้า เป็นแบบคู่ชนิดกึ่งให้ตัวได้ ขนาด 310 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS จากค่าย TOKOCO ติดตั้งแบบเรเดียล์เม้าท์ สั่งงานด้วยแรงดันไฮดรอลิค
– หลัง เป็นแบบจานเดี่ยวตายตัว ขนาด 250 มม. พร้อมระบบ ABS สั่งงานด้วยแรงดันไฮดรอลิค

ล้อ/ยาง
– หน้า เป็นอัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ยางขนาด 120/70 ZR 17
– หลัง เป็นอัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ยางขนาด 180/55 ZR 17

คนที่เห็นรถ Versys 1000 ส่วนหนึ่งจะแยกไม่ออกว่ารุ่นไหนเป็นตัวธรรมดาหรือรุ่น Limited นอกจากนั้นยังมีของแต่งที่เจ้าของใส่ลงไปแบบไม่มีกั๊กก็เลยทำให้คนที่ไม่ได้สนใจเล่นรถจริงๆ นั้นไม่มีทางแยกออก ขอเอา Versys 1000 ABS LT มาอวดหน่อยเผื่อไปเจอบนถนน จะได้บอกคนข้างๆ ได้ว่าเป็น Versys รุ่นไหน แต่ที่แน่ๆ ถ้าอยากรู้ว่าตัวพันมันต่างจากรถหกแรงครึ่งอย่างไร ง่ายๆ เลย ดูที่คอท่อไอเสีย ถ้าเห็นมี 4 ท่อ ก็ร้องอ๋อได้เลยเพราะมันคือ Versys 1000 นะจ๊ะ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.kawasaki.com

1011121314123456789

รีวิว Kawasaki W800 คลาสสิคอนุรักษ์นิยม จากแดนอาทิตย์อุทัย

$
0
0

รีวิว Kawasaki W800 คลาสสิคอนุรักษ์นิยม จากแดนอาทิตย์อุทัย

Kawasaki-W800_18_resize

ในยุคที่โลกมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะฝั่งของดิจิตอล ในวงการยานยนต์ก็พัฒนาตามไปด้วยเช่นกัน รถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ต่างก็ได้อานิสงค์ ปรับปรุงพัฒนาโดยนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยมาบรรจุลงในรถด้วยเช่นเดียวกัน และการพัฒนานั้นจะย่อมไม่มีวันสิ้นสุด ในทางกลับกันเชื่อว่าก็ต้องมีกลุ่มนักบิดผู้ที่มีความอนุรักษ์นิยม หลงใหลในความขลังของคลาสสิคที่มีตำนานอันยาวนาน และคงความสวยสง่าแบบดั้งเดิมเอาไว้

และถ้าหากพูดถึงรถ 2 ล้อ ที่ถือเป็นตำนานคลาสสิคของฝั่งญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ W-Series ของค่ายยักษ์เขียว ย่อมต้องเป็นที่รู้จักกันดีอย่างแน่นอน โดยมีโมเดลที่ทำตลาดในปัจจุบันชื่อ W800

Kawasaki W800 ถือเป็นรถ Classic สายอนุรักษ์นิยมจากฝั่งญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มันได้สืบทอดตำนานจาก W1 ต้นสายของตระกูลกว่า 50 ปี จนมาถึงโมเดลปัจจุบันนี้ W800 (2011) ซึ่งในประเทศไทย Kawasaki Motors ประเทศไทย ได้นำเข้า W800 จากญี่ปุ่น ทำการเปิดตัว W800 ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาในงาน Motor Expo 2016

ซึ่ง Kawasaki W800 มีจุดเด่นในเรื่องการเป็นรถนำเข้า CBU จากญี่ปุ่นทั้งคัน และการที่เป็นรถที่เรียกได้ว่าเป็นรถสำหรับสายคลาสสิคขนานแท้ (ไม่ใช่ Neo Retro) และในวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ 9carthai เราได้มาสัมผัส และขอมารีวิวให้เพื่อนๆ รับชมกับตำนานความขลังกว่า 50 ปี ของ Kawasaki W800 คันนี้กันครับ

รูปลักษณ์

Kawasaki-W800_02_resize

W800 คงความเป็นเอกลักษณ์ในแบบคลาสสิคดั้งเดิมจาก ไฟหน้าทรงกลม ไฟเลี้ยวทรงกลม

Kawasaki-W800_04_resize

ไฟท้ายทรงสามเหลี่ยมรี

Kawasaki-W800_13_resize

ท่อไอเสียออกคู่ ทรง Pea Shooter มอบสไตล์ Vintage

Kawasaki-W800_17_resize
บังโคลนล้อหน้า/หลัง โครเมียม
กระบอกโช้กหน้าหุ้มยาง

Kawasaki-W800_01_resize

ถังน้ำมันสีน้ำเงินโครเมียม มีโลโก้ W บ่งบอกความขลัง ที่มีตำนานกว่า 50 ปี

Kawasaki-W800_24_resize
นอกจากนี้ยังมาพร้อมขาตั้งคู่ และ ที่คล้องสำหรับล็อกหมวกกันน็อค

Kawasaki-W800_06_resize

แผงมาตรวัดอนาล็อก 2 ถ้วย
แบบดั้งเดิม 2 ถ้วย วัดความเร็วและวัดรอบ มีจอ LCD แสดงผล Odo, Trip และนาฬิกา
ไม่มีเกจ์น้ำมัน มีเพียงไฟเตือนน้ำมันใกล้หมด

Kawasaki-W800_08_resize

Kawasaki-W800_07_resize

สวิทช์ทั้ง 2 ฝั่ง ไม่มีปุ่มพิเศษอะไรมีเพียงปุ่มสวิทช์ไฟพื้นฐาน และปุ่ม Run Off
ก้านเบรก และ คลัทช์ ปรับระดับได้

Kawasaki-W800_29_resize

ด้านมิติรถ
W800 มีความสูงเบาะ 790 มม.
น้ำหนัก 217 กก.
ความจุถังน้ำมัน 14 ลิตร

Kawasaki-W800_05_resize

ท่านั่ง
สำหรับท่านั่งของเจ้า W800 พูดได้เต็มปากว่าเป็นรถที่มีท่านั่งสบายมาก จากตัวเบาะ และ ไม่สูงจนเกินไป ตำแหน่งแฮนด์บาร์ 22.2 ม. องศากำลังพอดี นั่งได้ผ่อนคลายไม่ต้องโน้มตัว นั่งหลังได้ตรง ตำแหน่งวางเท้าก็วางได้อย่างสบาย ตัวเบาะนั่งยาวตอนเดียวนุ่มนั่งสบายทั้งผู้ขี่ และคนซ้อน

Kawasaki-W800_26_resize

มีจุดหนึ่งที่แอบรู้สึกไม่ชอบ คือ ยางแปะถังน้ำมันซึ่งมีความหนา และผิวสัมผัสค่อนข้างแข็งทำให้รู้สึกอึดอัดเมื่อต้องหนีบถัง และดูจะไม่กระชับต้นขาเท่าที่ควร

Kawasaki-W800_23_resize

สำหรับความคล่องตัว การใช้งานในที่รถติดหนาแน่น W800 เป็นรถที่มีความยาว 2,190 mm และ กว้าง 790mm ถ้าเทียบกับรถ Naked ในค่ายอย่าง Z650 ยาว 2,115 mm กว้าง 775 mm ซึ่งช่วงรถกว้างและยาวกว่าพอสมควร จึงต้องใช้ทักษะบ้างในการมุดรถติดสำหรับมือใหม่

Kawasaki-W800_16_resize

เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความจุ 773cc แบบ Parallel-twin SOHC 8 วาล์ว ระบบหัวฉีดไฟฟ้า ให้กำลัง 48 hp@6,500rpm และ แรงบิด 60 Nm@2,500rpm จับคู่เกียร์ 5 Speed

แม้จะเป็นรถคลาสสิคขนานแท้ แต่ไม่ต้องใช้การติดเครื่องยนต์แบบคันสตาร์ทแล้ว กดปุ่มที่สวิทช์ขวามือติดเครื่องยนต์ได้ทันที

Kawasaki-W800_15_resize

อัตราเร่งช่วงออกตัว พบว่ามาได้ไว จากทอร์คที่มาหนักตั้งแต่รอบต่ำ จังหวะเปิดคันเร่งที่รอบต่ำ ก็มีอาการสั่นอยู่บ้าง ที่จริงแล้วก็ตามสไตล์เครื่อง 2 สูบ ความจุใหญ่ล่ะ แต่ด้วยการติดตั้ง Balancer Shaft ก็ไม่ถือว่าสั่นสะเทือนจนน่ารำคาญแต่อย่างใด ยังสามารถกระแทกคันเร่งออกได้ เมื่อแรงบิดมาในช่วงรอบกลางๆ เริ่มลื่นสมูทดีขึ้น ถือได้ว่าขี่ง่าย พอตัว คันเร่งไม่ดีดดิ้นยังควบคุมได้อย่างไม่ยากเย็น

Kawasaki-W800_Pon_resize

สำหรับช่วงความเร็วปลายไม่ได้หวือหวา รถจะค่อยๆ ขึ้นแบบเนิบๆ ช่วงความเร็ว 160+ ความเร็วสูงสุดได้มากถึง 185 km/hr

ด้านการระบายความร้อนของรุ่นนี้ระบายความร้อนด้วยอากาศ ช่วงตอนขี่ไม่ค่อยรู้สึกถึงความร้อนจะมีมารู้สึกตอนจอด หรือ ขี่ช่วงรถติด แต่ก็ถือว่าร้อนจนเป็นปัญหาแต่อย่างใด

Kawasaki-W800_20_resize

ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้าเป็นแบบ Telescopic Forks 39 มม. มาพร้อมยางหุ้มกระบอกโช้ก เน้นความคลาสสิค

Kawasaki-W800_11_resize

ด้านหลัง Twin shocks สามารถปรับ Preload ได้ 5 ระดับ

Kawasaki-W800_27_resize

จากการทดสอบ พบว่าช่วงล่างเน้นนุ่มนวล นั่งสบาย ทั้งเบาะ และโช้กหลัง ไม่มีอาการปวดเมื่อยก้นให้เห็น ทั้งผู้ขี่ผู้ซ้อน
เรียกได้ว่าชิลๆ ค่อยเป็นค่อยไปตามสไตล์รถคลาสสิคนี้ ถือว่าฟิน!

แต่ถ้าแอบซิ่ง ขี่เร็วๆ อาจมีอาการย้วยไปสักนิด รวมถึงถ้าหากขี่ 2 คน ก็ต้องขันสปริงให้แข็งขึ้นหน่อย

Kawasaki-W800_25_resize

นอกจากนี้ด้วยการใช้ล้อซี่ลวด หน้าขนาด 19” และล้อหลัง 18” สวมยางหน้าแคบกึ่งลุย อาจไม่ได้เอื้อต่อสายเทโค้งบนทางเรียบนัก

Kawasaki-W800_09_resize

ระบบเบรก
ด้านหน้าจานดิสก์เดี่ยวขนาด 300 มม. ปั๊มเบรกหน้า Tokico ลูกสูบคู่ ทำงานคู่กับคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ
ด้านหลังดรัมเบรกขนาด 160 มม.

Kawasaki-W800_30_resize

สำหรับการใช้งานโดยรวมนั้นก็ถือว่า พอชะลอความเร็วกับการขี่แบบทั่วๆไป ได้
แน่นอนว่าไม่มี ABS เข้ามาช่วยเหลือในแบบรถใหม่ๆ แต่ผู้เขียนก็รู้สึกชอบกับฟีลลิ่งเบรกที่ดูหนักแน่นกว่า ระบบ ABS ไม่มาคอยต้านสั่นสะเทือนนิ้วมือให้กวนใจแต่อย่างใด

แต่ด้วยสไตล์ ดรัมเบรกหลัง นั้นซึ่งผู้เขียนไม่ได้ขี่เบรกหลังดรัมเสียนาน พบว่าต้องปรับการลงน้ำหนักเบรกเท้าต้องละเอียดเสียหน่อย ด้วยน้ำหนักที่ดูทื่อๆ และแรงกดหนัก ต้องระวังล้อล็อก และยิ่งการขี่ในหน้าฝนเช่นนี้ อาจต้องย้ำเบรกหลังเพิ่มกันหน่อย

Kawasaki-W800_19_resize

สรุป Kawasaki W800 ถือเป็นรถสไตล์วินเทจ จุดเด่นอยู่ที่การเป็นรถ CBU (Import จากญี่ปุ่นเข้ามาทั้งคัน) และมันยังเป็นรถที่เหมาะกับมีความอนุรักษ์นิยม ในสายคลาสสิคแดนอาทิตย์อุทัย อย่างแท้จริง (Classic แท้ๆ ไม่ใช่ Modern Classic)

Kawasaki-W800_12_resize

W800 ยังถือได้ว่าเป็นรถคลาสสิคที่ขี่ง่าย น้ำหนักตัวปานกลาง มอบการเดินทางที่สบาย ทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน
มันเหมาะแก่การขี่เดินทางท่องเที่ยวแบบชิลๆ ไม่เน้นซิ่ง ขี่ตามสไตล์รถให้ดื่มด่ำกับความขลังในแบบคลาสสิคที่คงความงามของรูปลักษณ์ ดั่ง Logo W ที่ติดตั้งบอกตำนานอันเก่าแก่ของ Kawasaki W-Series

Kawasaki W800 มากับ 2 สี 2 ราคาให้เลือก

Kawasaki-W800_22_resize

สี Blue 376,000 บาท
สี Black (Special Edition) 395,000 บาท

ผู้ที่สนใจรถ Kawasaki สามารถติดต่อสอบถามได้ทาง Kawasaki Motoaholic
อำพล มูลทองสุข Test Driver + Photos
ภณ เพียรทนงกิจ Writer + Photos

Kawasaki-W800_18_resize Kawasaki-W800_19_resize Kawasaki-W800_29_resize Kawasaki-W800_20_resize Kawasaki-W800_21_resize Kawasaki-W800_22_resize Kawasaki-W800_30_resize Kawasaki-W800_01_resize Kawasaki-W800_03_resize Kawasaki-W800_12_resize Kawasaki-W800_10_resize Kawasaki-W800_02_resize Kawasaki-W800_04_resize Kawasaki-W800_17_resize Kawasaki-W800_23_resize Kawasaki-W800_05_resize Kawasaki-W800_06_resize Kawasaki-W800_08_resize Kawasaki-W800_07_resize Kawasaki-W800_16_resize Kawasaki-W800_15_resize Kawasaki-W800_13_resize Kawasaki-W800_09_resize Kawasaki-W800_25_resize Kawasaki-W800_11_resize Kawasaki-W800_24_resize Kawasaki-W800_14_resize Kawasaki-W800_26_resize Kawasaki-W800_27_resize Kawasaki-W800_Pon_resize

รีวิว Kawasaki Versys-X 300 ทัวร์ริ่งร่างล็ก ตะลุยดินแดนขุนเขาวังเวียง (ลาว) ใจไปถึง รถก็พร้อมไปกับคุณ

$
0
0

รีวิว Kawasaki Versys-X 300 ทัวร์ริ่งร่างล็ก ตะลุยดินแดนขุนเขาวังเวียง (ลาว) ใจไปถึง รถก็พร้อมไปกับคุณ

Versys300-Trip-Laos (11)_resize

ในปัจจุบันนี้มีผู้ที่สนใจหันมาขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หลายคนอาจจะเพิ่งมาหัดเที่ยวด้วยรถ 2 ล้อ อาจจะไม่ได้มีรถ Bigbike ด้วยซ้ำไป แต่ก็มีจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักในการขี่ท่องเที่ยวสไตล์ Touring นักเดินทาง และถ้าพวกเขาเริ่มต้นอยากจะมีรถ 2 ล้อสักคันเพื่อใช้เดินทางได้จริง แต่ต้องขี่ง่ายควบคุมง่าย ในราคาที่จับต้องได้ด้วย! มาวันนี้ทีมงาน 9carthai เราขอพาทุกท่านมาชมรถ Kawasaki Versys-X 300 ตะลุยทริปวังเวียง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันว่า รถ 300cc ก็เดินทางข้ามประเทศได้จริง!

Versys300-Trip-Laos (2)_resize

เมื่อวันที่ 23-25 มิถุนายน ที่ผ่านมาทาง Kawasaki Motors Thailand ได้จัดทริปขับขี่ข้ามประเทศจากจังหวัด อุดรธานี-วังเวียง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งแอดมินได้รับเกียรติไปร่วมทดสอบสมรรถนะของเจ้า Versys-X 300 รถ Touring Adventure ในครั้งนี้ด้วยทางเราจะขอมารีวิวให้เพื่อนๆ ผู้สนใจรับชมกันครับ

รูปลักษณ์

Versys300-Trip-Laos (7)_resize

– ไฟหน้า Versys-X 300 เป็นแบบหลอด รูปทรงทางด้านหน้า ให้ความรู้สึกว่าดีไซน์แอบย้อนยุค คล้ายจะนำ Ninja 250SL มาปรับความแหลมคมของไฟหน้าให้ดูโค้งมนมากขึ้น

Kawasaki-Versys-300_19

– ไฟท้ายแบบหลอด แต่ดีไซน์ได้แปลกตา เมื่อไฟติดดูมีมิติสวยงามและมองเห็นได้ชัดเจน

Versys300-Trip-Laos (15)_resize

– ล้อใช้แบบซี่ลวดด้านหน้าขนาด 19” สวมยางไซส์ 100/90/R19 จาก IRC Trail Winner
ด้านหลัง 17” สวมยางไซส์ 130/80/R17 ซึ่งด้วยความเป็นซี่ลวดนี้ทำให้มีความยืดหยุ่นนุ่มนวลสามารถเดินทางได้ทุกสภาพถนน

Versys300-Trip-Laos (20)_resize

– Versys-X 300 มาพร้อมแร็คหลัง เหมาะแก่สายเดินทางที่ต้องการรัดบรรทุกสัมภาระในการเดินทางไม่ว่าใกล้หรือไกล

Kawasaki-Versys-300_20

– มาตรวัด Digital ปนอนาล็อก วัดรอบแบบเข็ม บอกความเร็วเป็นตัวเลข พร้อมไฟบอกเกียร์,นาฬิกา และ Set Trip ได้อย่างเช่นเคยเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

Kawasaki-Versys-300_13

– สวิตช์ไฟซ้าย มาพร้อมไฟฉุกเฉิน ตามแบบฉบับรถขนาด 650cc.

Versys300-Trip-Laos (21)_resize

สำหรับ Kawasaki Versys-X 300 Tourer Version จะมาพร้อมออปชั่นมากมาย ได้แก่

Kawasaki-Versys-300_18

– กระเป๋าข้างแบบแข็งจุข้างละ 17 ลิตร รับน้ำหนักสูงสุดถึง 3 กก.กระเป๋าข้างเป็นแบบติดตั้งโดยใช้โบลท์และเปิดจากฝาปิดด้านบน มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ ด้วยความที่กระเป๋าข้างถูกออกแบบมาได้เหมาะพอดีกับช่วงความยาวของแฮนด์ทำให้ระหว่างการขับขี่ไม่รู้สึกกังวลกับกระเป๋าข้างเท่าไหร่ถึงแม้จะอยู่ในที่แคบรถติดก็ตาม

Kawasaki-Versys-300_17

–  ไฟตัดหมอก LED จาก PIAA เลนส์ขนาด ø84 มม. มีปุ่มเปิด-ปิด ทางด้านขวาของแผงหน้าปัดช่วยส่องสว่างในการเดินทางยามค่ำคืนได้ดีอย่างมากทำให้รู้สึกมีความมั่นใจในทุกการขับขี่

Kawasaki-Versys-300_07

–  ช่องจ่ายไฟ DC ทางด้านซ้ายของแผงหน้าปัดช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไกลที่ต้องชาร์จโทรศัพท์ หรือ เครื่องช่วยนำทางไปในระหว่างการเดินทางไปในตัว, ช่องด้านขวาเป็นปุ่มเปิด-ปิดไฟตัดหมอก

Versys300-Trip-Laos (13)_resize

– การ์ดแฮนด์ และ การ์ดกันล้มที่แฟริ่งด้านข้าง แบบท่อเหล็ก ซึ่งใช้เป็นตำแหน่งยึดไฟตัดหมอกด้วย

Versys300-Trip-Laos (12)_resize

– ขาตั้งคู่

Versys300-Trip-Laos (23)_resize

มิติตัวรถ Kawasaki Versys-X 300 
น้ำหนักตัวที่ 175 กก. และ 184 กก. ในรุ่น Tourer ถือได้ว่าเป็นรถ ADV Tourer ที่เบามากที่สุดคันหนึ่ง

ความสูงเบาะนั่ง 815 มม. กำลังดีไม่สูง ไม่เตี้ยเกินไป

ถังน้ำมันจุ 17 ลิตร เพียงพอต่อการเดินทางออกทริปไกลๆ วิ่งได้มากกว่า 400 กม. สบายๆ

Versys300-Trip-Laos (5)_resize

Versys-X 300 เป็นรถสไตล์ Touring Adventure เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ขับขี่ท่องเที่ยว ในวันหยุดสุดสัปดาห์  ท่านั่งในการขับขี่สบาย  ตั้งแต่องศาแฮนด์บาร์ที่กางตรง ระดับความสูงกำลังดีส่งผลให้ การควบคุมรถเป็นไปได้อย่างง่ายดายด้วยน้ำหนักรถที่เบาคุมง่าย ท่านั่งหลังตรงไม่ต้องก้มตัวลง สอดคล้องกับตำแหน่งการวางเท้าที่ค่อนข้างต่ำ นั่งสบายไม่ต้องงอขามากนัก ให้ Erogonomic ที่ดีเยี่ยม ถังน้ำมันขนาดกำลังดีไม่ใหญ่ไป และแบนเรียบหนีบได้กระชับช่วงเข่า อีกทั้งวินชิลด์หน้า ที่ช่วยบังลมได้ดี ทำให้รู้สึกถึงลมปะทะที่ช่วงลำตัวไม่มากจนเกินไป จากการทดสอบในทริปนี้สามารถขี่ได้อย่างต่อเนื่องในระยะทางที่ไกลโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้านัก

Versys300-Trip-Laos (1)_resize

ด้านตำแหน่งผู้ขี่ ตัวผู้เขียนสูง 166 ซม. เมื่อคร่อมรถสามารถเหยียบเท้าลงพื้นได้ประมานครึ่งฝ้าเท้า ด้วยน้ำหนักรถค่อนข้างเบา จึงไม่ส่งผลต่อการยืนทรงตัว มั่นใจเต็มเปี่ยมทุกครั้งที่ต้องจอด หรือ นั่งคร่อมรถ

Kawasaki-Versys-300_12

สำหรับตำแหน่งเบาะผู้ซ้อนนั้น ก็นุ่มนั่งได้สบายจริงเบาะใหญ่นุ่มหนา และ แต่ด้วยตำแหน่งเบาะนั่งแม้จะเป็นชิ้นเดียวแต่ เป็นเบาะแบบต่างระดับจึงทำให้ผู้ซ้อนนั้นอยู่สูงกว่าตำแหน่งผู้ขี่พอสมควร ซึ่งถ้าผู้ซ้อนสูงจะค่อนข้างสูงโด่งคล้ายรถสปอร์ตเล็กน้อย

Kawasaki-Versys-300_28

ขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ความจุ 296cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกำลัง 39 hp@11,000rpm และแรงบิด 27 Nm@10,000rpm ซึ่งเป็นเครื่องบล็อกเดียวกับ Ninja300/Z300 ยังมาพร้อมระบบ Assist & Slipper Clutch ที่ช่วยให้คลัทช์นิ่มเบามือ นอกจากนี้ยังเคลมอัตราสิ้นเปลืองว่าถังหนึ่งวิ่งได้ถึง 444 กม. ด้วยกัน

Kawasaki-Versys-300_21

ดังนั้นในด้านของสมรรถนะ อัตราเร่ง และความแรงนั้น แม้จะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน แต่การปรับเซ็ท Airbox, ระบบไอเสีย ใหม่ ซึ่งดูเน้นการส่งกำลังย่านกลางได้ดีขึ้นให้ความนุ่มนวล เพื่อให้เหมาะกับรถสายเดินทางอย่างตระกูล Versys

Versys300-Trip-Laos (3)_resize

การใช้งานออกทริปจริงวิ่งไกลข้ามประเทศ ยังทำได้ดี เดินทางไกลได้สบายๆ พละกำลัง และความราบรื่นของเครื่องยนต์ 2 สูบ นั้นทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์สูบเดี่ยวอย่างเห็นได้ชัด Versys-X 300 คันนี้ โดยรวมถือว่าขี่ง่ายนุ่มนวล เน้นไหลลื่น ความเร็วเดินทางยังมีให้ไปได้เรื่อยๆ ซึ่งในทริปนี้เราเน้นขี่รูปแบบขบวน ดังนั้นจะยืนพื้นที่ระดับ 130 กม./ชม. ซึ่งก็ถือได้ว่าไปได้สบายๆ กับความจุระดับ 300cc แม้จะต้องแบกสัมภาระ นอกจากนี้ไม่พบอาการสั่นสะท้านของเครื่องยนต์มาให้ตึงเครียดแต่อย่างใด

Versys300-Trip-Laos (16)_resize

ขณะที่ช่วงขึ้นเขา ก็ขี่ไปได้ปกติ เพียงแต่หากเจอทางโค้งขึ้นเขาที่ชันมากๆ อาจลดเกียร์ลงช่วยหน่อยอีกสักเกียร์ เพื่อใช้รีดกำลังช่วงต้น ซึ่งแรงบิดอาจจะไม่ได้จัดจ้านเท่าใดกับความเป็น Touring ที่เน้นกำลังดีในช่วงรอบกลางและปลายมากกว่า ซึ่งในทริปนี้ผู้เขียนสามารถทำความเร็วได้ถึงระดับ 160 กม./ชม. + ในวันท้ายๆ ซึ่งเริ่มคุ้นชินกับตัวรถมากขึ้น

เรียกได้ว่าการต้องเดินทางข้ามประเทศกับรถในพิกัดรุ่นพี่ระดับ Mid Sized นี่ ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะเรายังสามารถพา Versys-X 300 เกาะกลุ่มหน้าๆ ขบวนได้ ถ้าใจไปถึงรถก็ไปถึง 

Versys300-Trip-Laos (24)_resize

การควบคุมผ่านระบบกันสะเทือน
จากการทดสอบในทริปนี้บนถนนทางราบช่วงล่างยังซับแรงสะเทือนได้เป็นอย่างดี ขี่เดินทางไกลนิ่มนั่งสบาย ทั้งช่วงล่างและเบาะ การเข้าโค้งนั้น ก็ทำได้ง่ายดาย ด้วยตัวรถที่ เบา แม้จะในโค้งแคบๆ บนเขาก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

Versys300-Trip-Laos (10)_resize

เมื่อต้องขี่ลุยผ่านถนนลูกรัง หรือผ่านหลุมขรุขระ ก็ผ่านได้อย่างสบายๆ แม้จะเป็นโช้กหน้าแบบหัวตั้งไม่ใช่โช้ก UpSideDown ด้วยตำแหน่งแฮนด์บาร์ทรงสูงโค้งงอพอประมาณกับข้อศอก ทำให้ควบคุมรถได้ไม่ยากเย็น นอกจากนี้ตำแหน่งแฮนด์ไม่ยาวเกินไป ก็ช่วยให้สามารถขับขี่ฝ่าการจราจร รถติดได้ไม่เหนื่อย

Kawasaki-Versys-300_16

ระบบเบรก ABS
ด้านหน้าจานดิสก์เดี่ยวขนาด 290 มม. ปั๊มเบรก 2 ลูกสูบจาก Tokico
ด้านหลังจานดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มม. ปั๊มเบรก 2 ลูกสูบจาก Tokico

การทำงานของเบรกทำงานได้ดี การปรับใช้ปั๊มเบรกหน้า (แบบเดียวกับตัว 650) ให้ความหนักแน่นที่ดีขึ้น และการทำงานของ ABS ดูเนียนยิ่งขึ้น นอกจากนี้การที่รถมี Slipper Clutch ช่วยให้การเบรกหนักๆ หรือ ลดเกียร์ลงอย่างรวดเร็วไม่มีอาการรถกระชากท้ายล็อกปัดออกมาให้เห็น ผู้เขียนสามารถควบคุมรถก่อนพับเข้าโค้งบนเขาที่ลาดชัน ได้อย่างมั่นคงในทุกการควบคุม

Versys300-Trip-Laos (22)_resize

สรุป Kawasaki Versys-X 300 เป็นรถที่เข้ามาทำตลาด Entry Adventure มุ่งสายรักการเดินทางอย่างจริงจัง มองหารถที่ขี่ควบคุมง่าย น้ำหนักเบา คล่องตัว ไม่เน้นแรง แต่ยังคงความสะดวกสบายไม่แพ้รถ Adventure Touring ขนาดมิดไซส์

Versys300-Trip-Laos (6)_resize

จุดเด่น

  • น้ำหนักเบา คล่องตัว ควบคุมง่าย เหมาะสำหรับผู้รักการเดินทางแบบไร้ขีดจำกัด
  • ฟีลลิ่งการขับขี่ ที่นุ่มนวล นั่งสบายในทุกการเดินทาง
  • Assist & Slipper Clutch ที่ช่วยให้คลัทช์นิ่มเบามือ
  • ในรุ่น Versys-X Tourer Version มาพร้อมออปชั่นครบครัน สำหรับนักเดินทางซึ่งไม่ต้องไปตกแต่งอะไรเพิ่มเติมกันอีกต่อไป

Versys300-Trip-Laos (9)_resize

ขอขอบคุณ Kawasaki Motors Thailand สำหรับทริปทดสอบในครั้งนี้
Amphol Moolthongsuk Test Driver & Photo
ภณ เพียรทนงกิจ Writer & Editor

Versys300-Trip-Laos (2)_resize Versys300-Trip-Laos (3)_resize Versys300-Trip-Laos (5)_resize Versys300-Trip-Laos (1)_resize Versys300-Trip-Laos (6)_resize Versys300-Trip-Laos (7)_resize Versys300-Trip-Laos (8)_resize Versys300-Trip-Laos (9)_resize Versys300-Trip-Laos (10)_resize Versys300-Trip-Laos (11)_resize Versys300-Trip-Laos (12)_resize Versys300-Trip-Laos (13)_resize Versys300-Trip-Laos (14)_resize Versys300-Trip-Laos (15)_resize Versys300-Trip-Laos (16)_resize Versys300-Trip-Laos (17)_resize Versys300-Trip-Laos (18)_resize Versys300-Trip-Laos (19)_resize Versys300-Trip-Laos (20)_resize Versys300-Trip-Laos (21)_resize Versys300-Trip-Laos (22)_resize Versys300-Trip-Laos (23)_resize Versys300-Trip-Laos (24)_resize

Kawasaki ยกทัพทั้งบูทลุยงาน BIG MOTOR SALE 2017

$
0
0

Kawasaki ยกทัพทั้งบูทลุยงาน BIG MOTOR SALE 2017

2017-Kawasaki-ZX10R_4

KAWASAKI THAILAND ยกทัพเข้าร่วมงาน Big Motor Sale 2017 โดยมีรถจักรยานยนต์ตระกูล Z ซูเปอร์เน็คเก็ตไบค์เป็นไฮไลท์ของงาน พร้อมอวดโฉมให้สัมผัสอย่างใกล้ชิด

ทั้ง KAWASAKI Z900 รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่น้ำหนักเบา สามารถขับเคลื่อนไปด้วยความเร็วสูง จากการออกแบบตัวรถเพื่อการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

และที่สุดของรถซูเปอร์เน็คเก็ตไบค์เครื่องยนต์ 1000 ซีซี Z1000R ให้การตอบสนองเป็นเยี่ยม พละกำลังเต็มอัตรามาพร้อมดีไซน์ที่ให้ความโฉบเฉี่ยวสมกับเป็นตัวท็อปแห่งตระกูล Z โดยแท้จริง

และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทางคาวาซากิภูมิใจนำเสนอรถจักรยานยนต์ตระกูล KAWASAKI Z650 ใหม่ ซูเปอร์เน็คเก็ตไบค์ขนาดกลางน้ำหนักเบา ความคล่องตัวสูงสำหรับผุู้ขับขี่มีสไตล์ เปิดตัวสีใหม่ สีเหลือง (Yellow) และสีดำ (Metallic Spark Black)

สำหรับรถจักรยานยนต์สายพันธ์ุสปอร์ต Ninja ZX-10R ก็ได้มีการเปิดตัวลายกราฟฟิกและสีใหม่แปลกตาเช่นเดียวกันที่จะทำให้คุณหลงใหลในความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นพร้อมสะกดทุกสายตา

นายกฤษณะ ภาคีแพทย์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“บริษัทฯ คาวาซากิมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพ และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้รถจักรยานยนต์เสมอมา โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ในตระกูล Z ซึ่งเราได้มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ซูเปอร์เน็คเก็ตในด้านการขับขี่เพื่อสร้างความปลอดภัยและการควบคุมที่เป็นเยี่ยม พร้อมทั้งเหมาะสมกับสรีระของคนไทยทำให้เกิดความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่

สำหรับรถจักรยานยนต์ตระกูล Z ที่นำมาจัดแสดงนั้น มีตั้งแต่รุ่น 125 ซีซี ไปจนขนาดใหญ่ 1000 ซีซี ที่ให้พละกำลังและอัตราเร่งเต็มพิกัด

นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีรถจักรยานยนต์ตระกูล Ninja และ รถจักรยานยนต์แนว Classic มาให้พวกท่านได้เลือกชมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดอีกด้วย พร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษและอัตราดอกเบี้ยเฉพาะในงาน Big Motor Sale 2017 เท่านั้น”

ทั้งนี้งาน Big Motor Sale 2017 ณ BITEC บางนา กรุงเทพมหานคร จัดขึ้นวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม จนถึง วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2560 เริ่ม 12.00 น. จนถึง 21.30 น. ของทุกวัน และในวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2560 จะ เป็นวันสุดพิเศษ Midnight Sale ขายจนถึงเวลา 23.00 น.

2017-Kawasaki-ZX10R_5 2017-Kawasaki-ZX10R_6 2017-Kawasaki-ZX10R_7 2017-Kawasaki-ZX10R_1 2017-Kawasaki-ZX10R_2 2017-Kawasaki-ZX10R_3 2017-Kawasaki-ZX10R_4

KAWASAKI KLR 650 2017 “พร้อมผจญภัยทุกรูปแบบ”

$
0
0

KAWASAKI KLR 650 2017 “พร้อมผจญภัยทุกรูปแบบ”
KAWASAKI KLR 650 2017
KAWASAKI KLR 650 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ 4 วาล์ว DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 651 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก : 100 x 83 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 9.8 : 1

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : คาร์บูเรเตอร์ KEIHIN CVK 40 ขนาดปากคาร์บูเรเตอร์ 40 มม.

ให้กำลังสูงสุด : 44 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 5 สปีด

คลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่และสเตอร์

ไฟหน้า : ดวงใหญ่ พร้อมชิลด์บังลมแบบใสครอบทับด้านหน้า

บังโคลนหน้า : แบบเดียวกับรถสูตรทางฝุ่น

แฟรริ่ง : ขนาดใหญ่ครึ่งท่อนโอบถังน้ำมันและหม้อน้ำเอาไว้

ไฟท้าย : แบบ LED

ไฟเลี้ยว : เป็นแบบเลนส์ใสหลอดสีเหลืองทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

เฟรม : เหล็กกล้าขึ้นรูปและเชื่อมประกอบด้วยหุ่นยนต์ สีดำ

แฮนด์ : บาร์ทรงสูงแบบกว้างพร้อมการด์แฮนด์ป้องกันเศษหินหรือกิ่งไม้มาโดนมือ

เรือนไมค์ : แบบอะนาล็อกอ่านค่าได้ครบ

เบาะนั่ง : แบบเดี่ยวใบหน้าเน้นนั่งสบายเวลาเดินทางไกล

ด้านท้าย : เสริมแน็คสำหรับที่ติดกระเป๋า

ท่อไอเสีย : เป็นแบบยกสูง พร้อมการ์ดแคร้งค์อะลูมิเนียมที่ด้านล่างป้องกันเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย

มิติรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 960/2,296/1,349 มม.
– ความสูงของเบาะ : 889 มม.
– จากพื้นถึงตัวรถ : 210 มม.
– ระยะฐานล้อ : 1,480 มม.
– ความจุถังเชื้อเพลิง 24 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถ : 196 กก.

ระบบกันสะเทือน
– หน้า ช็อคอับเทเลสโคปิค ขนาด 41 มม. พร้อมยางกันฝุ่นสีดำ ระยะการทำงานที่ 200 มม.
– หลัง ช็อคอับเดี่ยว แบบ  Uni-Trak ที่ตั้งค่าฟรีโหลดได้ 5 ระดับ ระยะยุบตัว 185 มม.

วงล้อ/ยาง
– ล้อหน้า แบบซี่ลวด ขนาด 90/90-21 นิ้ว ลายดอกทัวริ่งผสมอ๊อฟโรด
– ล้อหลัง แบบซี่ลวด ขนาด 130/80-17 นิ้ว ลายดอกทัวริ่งผสมอ๊อฟโรด

ระบบเบรก
– ด้านหน้า เป็นดิสก์เดี่ยวตายตัว ขนาด 254 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
– ด้านหลัง เป็นดิสก์เดี่ยวแบบตายตัว ขนาด 212 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ

KAWASAKI KLR 650 เป็นรถ Dual Purpose ใช้งานอเนกประสงค์สไตล์ผจญภัยขนาดกลาง มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โดดเด่นในสไตล์ลุยทั้งทางเรียบและทางวิบาก

ขอขอบคุณภาพจาก www.kawasaki.com

1211109875436


KAWASAKI KX 450F 2018 “ตัวลุยสุดโหด จากค่ายแตนเขียว”

$
0
0

KAWASAKI KX 450F 2018 “ตัวลุยสุดโหด จากค่ายแตนเขียว”
KAWASAKI KX 450F 2018
KAWASAKI KX 450F 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ 4 วาล์ว DOHC

ขนาดความจุ : 449 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ : 96 x 62.1 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 12.8 : 1

ระบบระบายความร้อน : หม้อน้ำอะลูมิเนียม

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยคันสตาร์ทเท้า

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ KEIHIN

เรือนลิ้นเร่งขนาด : 43 มม.

ชุดเกียร์ : ธรรมดา 5 สปีด

คลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบขับเคลื่อน : โซ่และสเตอร์

ชิ้นงานบอดี้พาร์ทมีทั้งหมด 19 ชิ้น
– การ์ดแกนช็อคอับหน้า
– บังโคลนหน้า
– แป้นเบอร์รถด้านหน้า
– นวมกันกระแทกแฮนด์
– การ์ดรังผึ้ง
– ปีกหม้อน้ำ
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ด้านข้าง
– บังโคลนหลัง
– การ์ดครอบจานเบรคหลัง
– ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง
– การ์ดเครื่องยนต์หน้าเฟรม
– การ์ดเครื่องยนต์ด้านข้าง

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 820/2194/1280 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 335 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง 949 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1496 มม.
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 6.3 ลิตร

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับ เคลือบผิวด้วย DLC ขนาด 49 มม. ปรับตั้งได้ตามความต้องการ
– ด้านหลัง แบบเดี่ยว มีกระปุกซับแท้งค์และปรับตั้งได้ละเอียด

ยางลายดอกเน้นลุย/วงล้อ
– ล้อหน้าเป็นแบบซี่ลวด พร้อมยางขนาด 80/100-21 นิ้ว
– ล้อหลังเป็นแบบซี่ลวด พร้อมยางขนาด 120/80-19 นิ้ว

ระบบเบรค
– หน้า เป็นจานเดี่ยวคาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
– หลัง เป็นจานเดี่ยวคาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ

กลายเป็นรถที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดแล้วสำหรับ KX 450F เพราะมันคว้าชัยชนะมาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับรถของค่ายอื่นๆ จะว่าได้นักแข่งยอดฝีมือก็ไม่น่าจะถูกทั้งหมด มันต้องมีเรื่องของความแรงและการคุมรถที่ง่ายบวกผสมลงไปด้วย แบบนี้ถึงจะเรียกว่า ถูกที่สุด KX 450F 2018 เป็นรถที่รอลงแข่งสนามปีหน้า ขอพาไปดูกันหน่อยดีกว่าว่ารถรุ่นนี้มีอะไรดีซ่อนอยู่ภายใต้สีเขียวสุดจี๊ดของมัน หรือว่าจะเป็นเทคโนโลยีจากต่างดาว

ขอขอบคุณภาพจาก www.kawasaki.com

123456789

เปิดบูท Kawasaki Motor Expo 2017 จัดเต็มเปิดรถใหม่ นับ 10 รุ่น

$
0
0

เปิดบูท Kawasaki Motor Expo 2017 จัดเต็มเปิดรถใหม่ นับ 10 รุ่น

18MY Ninja H2 SX SE (3)_resize

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จากัด ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ Thailand International Motor Expo 2017 โดยในปีนี้คาวาซากิได้นำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่มาเปิดตัวภายในงานด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ขับขี่และความสนุกสนานให้แก่แฟนๆ นักบิดและบรรดานักแข่งทั้งหลาย ทั้งในแง่ของการเป็นยานพาหนะและการส่งมอบความสนุกสนานเพลิดเพลินให้แก่ผู้ขับขี่ นอกจากนี้คาวาซากิในฐานะของผู้นาตลาดรถบิ๊กไบค์ก็ยังช่วยเพิ่มสีสันและโอกาสใหม่ๆ ให้แก่คนไทยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากกับการเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ

2017-Kawasaki-ZX10R_5
โดยทางบริษัทมุ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและมุ่งพัฒนาประสิทธิภาพของรถมอเตอร์ไซค์ อย่างเช่นที่ปฎิบัติมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอย่างรถซูเปอร์สปอร์ตสายพันธ์ุแชมป์ อย่าง Ninja ZX-10RR ที่คว้ารางวัลมาหลายสนาม อาทิเช่น PTT BRIC Championship 2017 ที่ทีมแข่งของ Kawasaki Thailand Racing Team โชว์เหนือ คว้าแชมป์ประจาปีในรุ่น Super Bike (SB1) มาครองได้สำเร็จ เช่นเดียวกันกับรายการแข่งระดับโลกอย่าง WorldSBK Championship ที่ทีมนักแข่งของคาวาซากิ อย่าง “โจนาธาน เรีย” ที่คว้าแชมป์ต่อเนื่องมา 3 ปีซ้อน ซึ่งเป็นการตอกย้ำสมรรถะภาพที่ยอดเยื่ยมของรถอีกด้วย

คุณกฤษณะ ภาคีแพทย์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ จากภาพรวมทางเศรษฐกิจตลาดมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์นั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทางคาวาซากิจึงมุ่งพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยปีนี้คาวาซากิของเรามีการเปิดตัวรถใหม่ด้วยกันถึง 7 รุ่น ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ ตระกูล Ninja ตระกูล Z และ ตระกูล W ซึ่งตัวไฮไลท์ของเรา คือ Ninja H2 SX (SE) รถสปอร์ตทัวร์เรอร์ ที่ได้พัฒนามาจาก Ninja H2 เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน และภายในงานนั้นทางเรายังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย ที่ทางเราจัดเต็มมาส่งท้ายปีกันอย่างแน่นอนอีกด้วยครับ”

ไฮไลท์พิเศษที่บูธคาวาซากิ เปิดตัวใหม่ 7 รุ่น

18MY Ninja H2 SX SE (3)_resize
Ninja H2 SX [SE] รถสปอร์ตทัวร์เรอร์ ที่จะมาชาร์ตพลังในการเดินทางของคุณให้เร้าใจยิ่งขึ้น มาในคอนเซ็ปต์ “Supercharge Your Journey” ด้วยขุมพลังของซูเปอร์ชาร์จแรงม้าสูง การปรับพัฒนาให้รถจักรยานยนต์ที่เร็วที่สุดในสายพันธุ์สปอร์ต สามารถขับขี่ได้บนท้องถนนเพื่อการท่องเที่ยวในรูปแบบทัวร์เรอร์ โดดเด่นด้วยการส่งกาลังที่ได้รับการปรับมาเป็นพิเศษนี้เหมาะกับการขับขี่เป็นระยะทางไกล การใช้งานในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น Ninja H2 SX [SE] ยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางร่วมกันกับผู้โดยสารด้วยเบาะท้ายกว้างขวางนั่งสบาย ให้ความผ่อนคลายและสนุกสนานเมื่อคุณเดินทางไกล ผลลัพธ์ใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิมอบให้แก่นักเดินทางทุกท่าน
ราคา Kawasaki H2 SX SE 1.09 ล้านบาท

2018-Kawasaki-ZX-10R-SE_2
Ninja ZX-10R [SE] รถซูเปอร์สปอร์ตสายพันธ์ุแชมป์ ที่ได้รับการพัฒนามาจาก Ninja ZX-10R เจ้าแห่งสนามการแข่งขันมาหลายรายการ ล่าสุดกับ WorldSBK Championship ที่ทางคาวาซากิ คว้าแชมป์ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ตอกย้ำสมรรถะภาพของรถที่เหนือกว่า ซึ่ง Ninja ZX-10R SE นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิได้พัฒนาขึ้นมากับระบบ KECS ( Kawasaki Electronic Control Suspension) คือระบบไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับโช้ก Showa ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยมีให้เลือกปรับเปลี่ยน 3 โหมดประกอบด้วย Road, Track, และ Manual พร้อมที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้แก่ผู้ขับขี่
ราคา Kawasaki ZX-10R SE 8.85 แสนบาท

Ninja 400 (11)_resize
Ninja 400 / Ninja 250 สปอร์ตโมเดลใหม่ คมเข้มสไตล์นินจา สมรรถนะอันเหนือชั้นด้วยขุมพลังและแซสซีใหม่แบบ All-new การควบคุมที่คล่องตัวตามสั่ง ทั้งยังมีตำแหน่งท่านั่งแบบสปอร์ตซึ่งทำให้นินจารุ่นใหม่นี้กลายเป็นรถที่ครบถ้วนทั้งความสนุกสนานและขับขี่ง่ายในคันเดียวกัน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ทำให้ Ninja 400 จะสามารถคว้าตำแหน่งรถยอดนิยมของผู้รักการขับขี่รถจักรยานยนต์ไปครองได้อีกครั้งอย่างแน่นอน
Kawasaki Ninja 400 สีดำ ราคา 1.96 แสนบาท
Kawasaki Ninja 400 KRT ราคา 2.05 แสนบาท
2018 Ninja 250 ราคา 1.795 แสนบาท

Kawasaki-Z900RS-TMS2017_03
Z900RS / Z900RS Café รถสไตล์เรโทร ที่ผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิกให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน โดยใช้เครื่องยนต์และโครงสร้างร่วมกับ Kawasaki Z900 มาในคอนเซ็ปต์ “True Spirit” รถจักรยานยนต์เรทโทรเน็คเก็ค ขนาด 900 ซีซี 4 สูบเรียง การนำเอาจิตวิญญาณของโมเดลในตำนานอย่าง Z1 ปี ปี 1972 มาใช้ แต่ได้รับการเติมเต็มอารมณ์แบบคาเฟ่ด้วยเฉดสีและลวดลายกราฟฟิคอันโดดเด่น สะกดทุกสายตาความงดงามด้วยการออกแบบอย่างปราณีตลงตัว แต่คงไว้ซึ่งพละกำลังมหาศาล สมกับเป็นเรทโทรเน็คเก็คจากคาวาซากิอย่างแท้จริง สำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์ที่มีคาแรคเตอร์และประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน Z900RS และ Z900RS Cafe คือรถที่มีทั้งสองคุณสมบัติแบบครบถ้วน นอกจากจะวิ่งได้ตามใจสั่งแล้ว ยังเปิดโอกาสให้คุณได้มองสิ่งรอบตัวและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติรอบกายของคุณอีกด้วย
Z900RS สีเขียวด้าน ราคา 4.85 แสนบาท
Z900RS สีน้ำตาลส้ม ราคา 4.99 แสนบาท
Z900RS Cafe ราคา 5.05 แสนบาท

Kawasaki-Estrella250
W250 คือรถอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล “W” ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์เรโทรแท้ๆที่ถูกออกแบบมาสำหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ เช่นเดียวกันกับรุ่น W800 รถจักรยานยนต์ W รูปลักษณ์คลาสสิคตามสมัยนิยมขนาดกลางรุ่นนี้ผสมผสานรูปลักษณ์แบบคลาสิคเข้ากับสมรรถนะด้านการขับเคลื่อนและคุณภาพงานประกอบที่แข็งแรงทนทานแบบโมเดริน์ ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่อัดแน่นไว้ด้วยเสน่ห์ของความคลาสสิคซึ่งชวนให้นึกถึงรถจักรยานยนต์ในอดีต ด้วยองค์ประกอบและงานดีไซน์อย่างถังน้ามันทรงหยดน้ำรูปทรงสวยงามและการวางเครื่องยนต์ตั้งตรงซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นรถจักรยานยนต์ เรโทรสายพันธุ์แท้ เสริมด้วยตำแหน่งท่านั่งที่กระชับและสบาย ออกมาเป็นแพ็คเกจที่มีความกระชับ ใช้สอยง่ายและสร้างความเพลิดเพลินให้คุณได้ทุกวินาทีที่อยู่บนอาน และแน่นอนว่า มาพร้อมคุณภาพงานประกอบที่แข็งแรง ทนทาน ตลอดจนเก็บงานได้เรียบร้อยทั้งด้านนอกและด้านในอย่างที่คุณคาดหวังจากแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “คุณภาพสูงสุด”
W250 ราคา 2.2 แสนบาท

Kawasaki-W175-SE-Black_2
W 175 / W 175 [SE] รถจักรยานยนต์เรโทรพันธุ์แท้รุ่นเล็กจากตระกูล “W” ที่พัฒนาจากผู้สร้างเดียวกับตระกูล Ninja เช่นเดียวกัน มาพร้อมรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่อัดแน่นไว้ด้วยเสน่ห์ของความคลาสสิกซึ่งชวนให้นึกถึงรถจักรยานยนต์ในอดีต มีเครื่องยนต์ปริมาตรกระบอกสูบ 177 ลบ.ซม. หนึ่งสูบ ประสิทธิภาพสูง ทำให้ W175 นั้นจะสามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่แบบไร้ความกังวล ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่
W175 ราคา 8.3 หมื่นบาท
W175 SE ราคา 8.6 หมื่นบาท

ทั้งนี้คาวาซากิขอเชิญชวนทุกท่านร่วมชมรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆได้ที่บูธคาวาซากิภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ Thailand International Motor Expo 2017 พร้อมพบกับโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ชาเลนเจอร์ 1 บูธ G02 วันที่ 30-11 ธันวาคม 2560 โดยวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 22.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น.

Kawasaki ดึง Jonathan Rea แชมป์ WSBK 3 สมัย มีตติ้งกับลูกค้า Ninja พร้อมยลโฉม Ninja H2 SX SE ครั้งแรก

$
0
0

Kawasaki ดึง Jonathan Rea แชมป์ WSBK 3 สมัย มีตติ้งกับลูกค้า Ninja พร้อมยลโฉม Ninja H2 SX SE ครั้งแรก

Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_14

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำแห่งเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ จัดงาน Ninja Champion Raid Party เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าชาวนินจา และทางคาวาซากิยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่ได้เชิญ “โจนาธาน เรีย” แชมป์ FIM Superbike World Championship 3 ปีซ้อน ได้มาร่วมงานนี้อีกด้วย เพื่อเอาใจสาวกชาวนินจา

Rea

มร. ยาสุชิ คาวาคามิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้คาวาซากิ ได้แสดงสมรรถนะที่ยิ่งใหญ่ให้บรรดาผู้ที่หลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงสมรรถะภาพของรถอย่าง Ninja ZX-10RR ซึ่งโจนาธาน เรีย นั้น ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าชัยชนะในการแข่งขัน World Superbike Championship ติดต่อกันเป็นสมัยที่สาม ขณะเดียวกันที่ประเทศไทย ติ้งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร และรถ Ninja ZX-10RR ก็สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขัน FMSCT All Thailand Superbike Championship มาได้เช่นกันครับ ซึ่งเป็นการตอกย้ำสมรรถะภาพ ของรถจักรยานยนต์คาวาซากิได้เป็นอย่างดีครับ”

Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_18

นอกจากนี้ยังได้มีการนำรถ Kawasaki Ninja H2 SX SE มาให้ได้ยลโฉมจริงกันภายในงานอีกด้วย ซึ่ง Ninja H2 SX SE ถือเป็น รถเครื่องยนต์ซุปเปอร์ชาร์จ ในสไตล์ Sport Tourer คันแรกของโลก

Ninja-Party Rea Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_18 Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_14 Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_20 Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_21 Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_19

KAWASAKI KX 100 2018 “ตัวจี๊ดแห่งค่ายแตนเขียว”

$
0
0

KAWASAKI KX 100 2018 “ตัวจี๊ดแห่งค่ายแตนเขียว”
KAWASAKI KX 100 2018
KAWASAKI KX 100 2018

เครื่องยนต์ : 2 จังหวะ สูบเดียว

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ขนาดความจุ : 99 ซีซี.

กระบอกสูบ X ระยะชัก : 52.5 X 45.8 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 10.2:1 (low speed) – 8.7:1 (high speed)

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : คาร์บูเรเตอร์ KEIHIN รุ่น PWK 28 ขนาด 28 มม. เป็นคาบูเรเตอร์แบบ Flat Slide

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบเปียก สั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องด้วย : คันสตาร์เท้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

สีรถ : ยังคงใช้สีประจำค่าย สีเขียว

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 15 ชิ้น
-การ์ดกันแกนช็อคอับหน้า
-บังโคลนหน้า
-แป้นเบอร์ด้านหน้า
-ปีกหม้อน้ำ
-การ์ดรังผึ้ง
-ถังเชื้อเพลิง
-เบาะนั่ง
-แป้นเบอร์ด้านข้าง
-บังโคลนหลัง
-ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง
-การ์ดครอบจานเบรกหลัง

เฟรม : เป็นเหล็กมาขึ้นรูปและเชื่อมต่อประบอกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อประสาน ตัวสวิงอาร์มเป็าอะลูมิเนียมเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและมีน้ำหนักเบา

มิติตัวรถ
กว้าง/ยาว/สูง : 765/1920/1150 มม.
ระยะห่างฐานล้อ : 1310 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 870 มม.
ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 330 มม.
ความจุถังเชื้อเพลิง : 5 ลิตร
น้ำหนักรวมพร้อมคนขี่ : 77 กิโลกรัม

วงล้อ / ยาง
– ด้านหน้า เป็นแบบซี่ลวด / ยาง 70/100 – 19 นิ้ว
– ด้านหลัง เป็นแบบซี่ลวด / ยาง90/100 – 16 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 36 มม. ปรับตั้งได้ 20 ระดับ
– ด้านหลัง ช็อคอับหลังแบบเดี่ยว ปรับตั้งค่าความแข็งของได้ 24 ระดับ และสปีดการคืนตัวอีก 21 ระดับ

ระบบเบรค
– ด้านหน้า จานเบรคแบบตายตัวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ สั่งงานด้วยปั๊มไฮดรอลิคด้านบนแฮนด์
– ด้านหลัง จานเบรคหลังแบบบเดี่ยวตายตัว มาด้วยขนาด 184 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ สั่งงานด้วยแรงดันไฮดรอลิค

นี่ก็ถือเป็นเครื่องยนต์สองจังหวะอีกค่ายที่น่าสนใจเพราะมีศักดิ์ศรีดีกรีแชมป์ค้ำคออยู่ KAWASAKI มีแนวทางการออกแบบที่เป็นตัวของตัวเอง รวมถึงนิสัยของเครื่องยนต์ก็มีสไตล์ที่เป็นตัวตนอย่างชัดเจน ครั้งนี้เป็นคิวของ KAWASAKI KX 100 ซึ่งแม้วาขนาดความจุจะดูน้อย แต่ว่าร้อย ซีซี. ของค่ายนี้ มันจี๊ด น่าดูเลยทีเดียวแลย อีกทั้งน้ำหนักเบา ขี่ก็ง่าย จะเอาไปลุยที่ไหนก็ไปได้หมด เพราะ นี่คือรถสูตรทางฝุ่นสายโมโตครอส

ขอขอบคุณภาพจาก www.kawasaki.com และ www.totalmotorcycle.com

1234567

รีวิว Kawasaki Ninja 400 ใหม่ สัมผัสสปอร์ตคันใหม่ ตัวตายตัวแทน Ninja 300 ในสนาม ต้น-กลางจัดจ้านขึ้น แต่เบาคล่องกว่าเดิม

$
0
0

รีวิว Kawasaki Ninja 400 ใหม่ สัมผัสสปอร์ตคันใหม่ ตัวตายตัวแทน Ninja 300 ในสนาม ต้น-กลางจัดจ้านขึ้น แต่เบาคล่องกว่าเดิม

รีวิว Kawasaki Ninja 400

หลังจากที่ Kawasaki ได้เซอร์ไพรส์ เปิดตัว 2018 Ninja 400/ Ninja 250 ใหม่ ที่งาน Tokyo Motor Show 2017 เมื่อช่วงปลายเดือน ตค. ที่ผ่านมานั้น ทาง Kawasaki Motors Enterprise ก็ไม่รีรอได้เปิดตัวทั้ง 2 โมเดลอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่งาน Motor Expo 2017 เช่นเดียวกัน

Kawasaki-Ninja400-Impact_1

และในวันที่ 1 ธค. ที่ผ่านมาทาง Kawasaki Motors Enterprise ได้จัดกิจกรรมทดสอบให้กับบรรดาสื่อมวลชนสายมอเตอร์ไซค์ของไทยได้ทดลองเจ้า Ninja 400 เป็นครั้งแรก ณ สนาม Impact Speed Park ซึ่งทางสื่อ 9carthai ของเราได้รับเกียรติในการเข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ทางเราจึงขอมา รีวิว Kawasaki Ninja 400 ใหม่ นี้ แบบสัมผัสแรก กันในสนามกันดีกว่าครับ

Ninja-Party_1

สำหรับการรีวิว KAWASAKI Ninja 400 ในครั้งนี้ เราขอเข้าเรื่องที่การสัมผัสตัวรถในช่วง 12 นาที สั้นๆ บนสนาม Impact Speed Park ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการจัดทดสอบรถจักรยานยนต์ในสนาม Go Kart แห่งนี้

Ninja-Party_4

หลายคนที่อาจจะสงสัย หรือเคยสอบถามเข้ามาก่อนที่ Kawasaki จะเปิดตัว Ninja 400 ซึ่งในขณะนั้น ต่างพูดถึงกันว่า All Ninja 300/250 ใหม่ น่าจะมีการปรับโฉมในสไตล์ Sport Replica เหมือนอย่างค่ายปีกนก รวมไปถึงทางค่ายส้อมเสียงที่มีข้อมูลมาว่าจะผลิตโมเดลใหม่ในทิศทาง Sport Replica เช่นเดียวกัน ทำให้หลายคนต่างคิดว่ายักษ์เขียวจะมาแนว ZX-3R, ZX-25R หรือไม่ แต่ในวันนี้ได้ชี้ชัดแล้วว่า พวกเขาเลือกที่จะฉีกรูปแบบดังกล่างออกไป ให้แตกต่างโดยเป็นค่ายแรกที่เพิ่มพิกัดหนีขึ้นไปเป็น 400cc สำหรับรถในระดับ Sport Entry

Kawasaki-Ninja400-Impact_8

ทางทีมงาน 9carthai เราได้ยิงคำถามทีม R&D ของญี่ปุ่นไปว่าทำไมพวกเขาจึงเลือกอัพ cc แทนการใส่ออปชั่นมาในสไตล์ Sport Replica เราได้คำตอบกลับมาอย่างเรียบง่ายว่า “Kawasaki ต้องการเพิ่มความเร็วความแรงให้กับรถรุ่นนี้” เราจึงตีความได้ว่าพวกเขาต้องการให้รถตระกูล Ninja นั้นแรงทรงพลังกว่ารถคันอื่นในตลาดระดับเดียวกัน จึงใช้วิธีการเพิ่ม cc แทนยัดออปชั่น ซึ่งผมว่าทิศทางและเป้าหมายในการรุกตลาดชัดเจนดีครับ “ถ้าคุณต้องการความแรงในรถระดับ Sport Entry คำตอบคุณคงต้องเป็น Ninja”

Pon-Ninja400_7

มาเริ่มกันที่ สัมผัสแรกในเรื่องของท่านั่งทันทีที่คร่อม Ninja 400

Kawasaki-Ninja400-Impact_5

แม้ว่า KAWASAKI Ninja 400 มีความสูงเบาะ 785 มม. เท่ากันกับ Ninja 300 เดิม แต่การดีไซน์ให้เบาะที่แคบลงจึงทำให้ผู้ขี่เหยียบได้เต็มเท้ามากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าสะดวกแก่ผู้ที่มีสรีระไม่สูงนัก แถมตัวเบาะหนาขึ้นกว่าเดิม 40 มม. เรียกได้ว่านุ่มก้น นั่งสบายกว่าเดิมถ้าขี่นานๆ ไม่มีปวดเมื่อย

Kawasaki-Ninja400-Impact_3

แน่นอนว่า ท่านั่งโดยรวมจะไม่ใช่ Sport Replica เหมือนตระกูล ZX มันยังคงความสบาย เหมาะแก่การใช้งานในชีวิตประจำวัน จากแฮนด์ที่ไม่ต้องก้มให้เมื่อยหลังนัก และพักเท้าที่เยื้องไปทางด้านหน้าไม่ต้องงอเข่าให้ปวดข้อกันเวลาขี่

ขณะที่น้ำหนักตัวเบาลงกว่าเดิม รวมไปถึงความกว้าง และความยาวรถ ที่มีขนาดสั้นลงกว่าเดิม ระยะฐานล้อก็สั้นลงเช่นเดียวกัน

นั่นจึงทำให้ตัวรถดูกระชับและมีความคล่องตัวในการควบคุมดีขึ้นมาก พลิกเลี้ยวได้ง่าย

Kawasaki-Ninja400-Impact_4

ด้านถังน้ำมันขนาดเล็กลงเหลือเพียง 13 ลิตร จากเดิม 17 ลิตร ทำให้ช่วงลำตัวดู Slim กว่าเพื่อนๆ พิกัด 250-300cc ทั่วไป อย่างไรก็ดีทาง Kawasaki เคลมว่าน้ำมันเต็มถังวิ่งได้ 350 กม. ถือว่าวิ่งออกทริปได้แบบยาวๆ หายห่วง และอัตราสิ้นเปลืองไม่ได้หนีจากเดิมมากนัก

Pon-Ninja400

เริ่มต้นในการขี่จริงเจ้า Ninja 400 บนสนาม Impact Speed Park แห่งนี้ แม้จะเป็น Track Go Kart ที่ได้ลองกันแบบ Loop สั้นๆ แต่เราก็มีโอกาสได้กระแทกคันเร่งกันแบบเต็มๆ ไปถึง Redline เช่นเดียวกัน

บีบคลัทช์ออกตัว น้ำหนักคลัชท์ดูเบาลงกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อเปิดคันเร่ง อัตราเร่งช่วงต้น-กลาง นั้น มาไวแบบน่าประทับใจ แม้ Redline จะอยู่ที่ 12,000rpm แต่ลากคันเร่งไปไม่นานก็เข้าช่วง Redline อย่างรวดเร็ว ขึ้นพรวดมาไว รอบเครื่องตื้อเร็วเช่นเดียวกัน จนแอบรู้สึกว่ามาไว หมดไว อารมณ์ใกล้เคียงตัว 650cc เลยแฮะ (Ninja 650 Redline@10,000rpm) เรียกได้ว่า Ninja 400 ใหม่ คันนี้ไม่ใช่พวกที่ต้องเค้นเอาแรงเน้นรอบจัดจ้านแบบ Ninja 300/250 โฉมเก่า

Pon-Ninja400_5

ขณะที่ Slipper Clutch ชุดใหม่ ก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นเคย ช่วง Engine Brake จากเกียร์ 3 ลดลงมาเกียร์ 2 พบว่า ล้อหลังอาจมีจังหวะ Slip เบาๆ แต่เมื่อเบิิ้ลคันเร่งทิ้ง อาการเหล่านั้นก็ลดลงจนแทบจะหมดไป ซึ่งถือว่าการทำหน้าที่ของ Slipper Clutch ชุดใหม่นี้ ช่วยอย่างมากในการขี่ใน Track ที่ได้ใช้กำลัง Engine Brake ดึงชะลอความเร็วก่อนเข้าโค้งเช่นนี้

Pon-Ninja400_3_1

ในรอบแรกของการทดสอบ ผู้เขียนลองใช้เกียร์ 2 ในการเข้าโค้งในแต่ละจุด บน Track Go Kart แห่งนี้ แต่กลับพบว่ารอบเครื่องมันตื้อตึงมือเกินไป สัก 2 รอบถัดมา ลองใช้เกียร์ 3 เข้าโค้ง เน้นเบรกให้หนักขึ้น พบว่าประสิทธิภาพเบรกนั้นดีขึ้นจากการหันมาใช้ปั๊มเบรกตัวเดียวกับรุ่นพี่ Ninja 650 ทั้งหน้า-หลัง จาก Nissin แม้จะเป็นจานดิสก์เดี่ยวก็ตาม Ninja 400 มันชะลอความเร็วได้ดีเหมาะสมกับกำลังเครื่องที่มี น้ำหนักแม่ปั๊มดูแน่นมือมีกำลังในการชะลอความเร็วได้ดีขึ้น

ต่อด้วยการเดินคันเร่งที่เกียร์ 3 ในโค้ง พบว่ามันเดินได้เนียนยิ่งขึ้น มีกำลังเหลือเฟือในการเปิดคันเร่งออกโค้งไปได้แบบสบายๆ หลังจากนั้นผู้เขียนจึงใช้เกียร์ 3 เข้าโค้งขี่กันแบบสบายๆ ไม่ต้องเครียด พอมีโอกาสขึ้นเกียร์ 4 ในช่วงทางตรงยาวของ Track สั้นๆ

Kawasaki-Ninja400-Impact_6

สำหรับระบบช่วงล่าง นั้น Ninja 400 ให้แกนโช้กใหญ่กว่าเดิมขึ้นมาที่ 41 มม. ทำให้การซับแรงและช่วงเบรกจุ่มหนักๆ ดูมั่นคงยิ่งขึ้น แฮนด์ลิ่งไม่ดูโหวงเหวง สะบัดในช่วงเปิดคันเร่งออกหนักๆ

Pon-Ninja400_4_1

ขณะที่อีกจุดที่น่าประทับใจเลย คือ Ninja 400 อัพไซส์ยางหลัง หน้ากว้างขยับขึ้นมาเป็น 150 มม. จาก Ninja 300/250 เดิมที่ให้มา 140 มม. ถือได้ว่าเหมาะสม การเข้าโค้งหน้าสัมผัสมีเยอะขึ้น ทำให้การเทโค้งดูดีกว่าเดิม เทเลี้ยวโค้งดูง่ายขึ้น และยิ่งขนาดตัวรถที่เล็กลงและสั้นลงกว่าเดิมอีก ทำให้การเข้าโค้งใน Track ขนาดเล็กที่ต้องการความคล่องตัวอย่าง Impact Speed Park แห่งนี้ ขี่ได้สนุก และโชว์ความพร้ิ้วของเจ้า Ninja 400 คันนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี

Kawasaki-Ninja400-Impact_7

สรุป
เบื้องต้น รีวิว KAWASAKI Ninja 400 ใหม่ แบบ 1st Impression ครั้งนี้ ทำให้เรารับรู้ได้ว่าตัวรถเบาช่วยให้การควบคุมรถดีขึ้น พริ้วคล่องตัว และมันยังเพิ่มความสบาย เอื้อเฟื้อต่อผู้ขี่มากกว่าเดิมด้วย

นอกจากนั้นขุมพลังแรงกว่าเดิมชัดเจน ทอร์คหนักตั้งแต่รอบต้น-กลาง เรียกได้ว่าการทดสอบเบื้องต้นเพียง 12 นาที นี้ช่วยให้เราพอจินตนาการภาพได้ว่า ถ้าใช้งานในเมืองมันน่าจะคล่องตัว, เร่งแซงได้ทันใจเหมาะแก่เป็นรถ Everyday Bike ขี่ใช้งานจริงได้ และมันยังขี่สนุก พร้อมออกทริปไปได้แบบสบายๆ ด้วยเช่นกัน

Kawasaki-Ninja400-Impact_2

ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
สุภิญญา ชำนาญกุล Photo

ขอขอบคุณ Kawasaki Motor Enterprise
ขอบคุณภาพเพิ่มเติมจาก The Bank, และ พี่ TopsaVage ครับ

Kawasaki-Ninja400-Impact_1 Kawasaki-Ninja400-Impact_2 Kawasaki-Ninja400-Impact_7 Kawasaki-Ninja400-Impact_8 Ninja-Party_2 Ninja-Party_4 Ninja-Party_1 Ninja-Party_3 Kawasaki-Ninja400-Impact_9 Kawasaki-Ninja400-TIME2017 Kawasaki-Ninja400-Impact_3 Kawasaki-Ninja400-Impact_4 Kawasaki-Ninja400-Impact_5 Kawasaki-Ninja400-Impact_6 Pon-Ninja400 Pon-Ninja400_3_1 Pon-Ninja400_4_1 Pon-Ninja400_5 Pon-Ninja400_7
Viewing all 90 articles
Browse latest View live